วันที่ 4 ก.ค.2566 นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 เปิดเผยถึงท่าทีทางการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สะท้อนจากการเสนอชื่อนายวิทยา ชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ว่า เป็นเรื่องการตัดสินใจของที่ประชุมและผู้เสนอ ทั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ได้หารืออะไรกัน แต่เราหารือกันเพียงว่าอยู่คนละฝั่งกับฝ่ายที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองซึ่งเป็นแนวทางที่เราไม่เห็นด้วย
นายวิทยา ยอมรับว่า เป็นทิศทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมจะยืนตรงกันข้ามพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่อง มาตรา112 แต่ยังมีเรื่องแยกดินแดน เปลี่ยนวันชาติ ซึ่งหลายๆเรื่องเรารับไม่ได้และประชาชนก็รับไม่ได้ เราจึงมีหน้าที่มาสะท้อนแทนประชาชนส่วนหนึ่งซึ่งไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า ต้องการฝากอะไรถึงสมาชิกที่ฟรีโหวต และงดออกเสียงด้วยหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่เป็นไรถือเป็นเรื่องปกติ ตนเองไม่ได้หารืออะไรจริงจัง เป็นเรื่องของการแสดงท่าทีเพื่อได้บอกให้รู้ว่าตนเองคิดอย่างนี้ พรรคเราคิดอย่างนี้จึงได้แสดงอารมณ์ออกไปอย่างนี้ เพราะฉะนั้นใครเห็นด้วยก็เดินตามมา หรือถ้าไม่เห็นด้วยและยังไม่มั่นใจก็ไม่เป็นไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อตำแหน่งประธานสภาเป็นของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แล้วทางพรรครวมไทยสร้างชาติประเมินว่าการทำงานของรัฐสภาจะเป็นอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า "ในความคิดของผมอาจารย์วันนอร์ก็คือเพื่อไทย เป็นคนของเพื่อไทย เพราะท่านแยกมาจากที่นั่น และผมคิดว่ายังมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อไทย ดีกว่าก้าวไกล ในความรู้สึกผม ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะเริ่มก้าวที่หนึ่ง ดังนั้นก้าวที่สอง ที่สาม ก็พอดูออกกันแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ผมรู้จักอาจารย์วันนอร์ ตั้งแต่อยู่พรรคความหวังใหม่ และย้ายไปอยู่เพื่อไทย ผมจึงเข้าใจว่าท่านมีความผูกพันสูงกว่าพรรคก้าวไกลแน่นอน เพราะฉะนั้นมันก็คงเป็นอย่างที่พวกเราคาดการณ์ ดังนั้นจึงพอจะเข้าใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพื่อไทยไม่ได้ถอยแต่เขาเดินทีละก้าวกินข้าวทีละคำ เดี๋ยวก็หมดจาน"
เมื่อถามว่า ตัวเลข 312 เสียง ที่พรรคก้าวไกลได้ ดูเหมือนฝั่งประชาธิปไตยไม่แตกแถว นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็เห็นว่ายังรักษากันดี ขอให้รักษาไปถึงวันโหวตนายกฯ แล้วก็คาดการณ์ดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนั้น
ส่วนในวันนั้นจะคง 312 เสียงหรือไม่ก็อยู่ที่การประคองความรู้สึก ซึ่งตอนนี้ความรู้สึกเริ่มผ่อนคลายลงมาไม่ก้าวร้าว ทีแรกก็จะเอาหมดทุกอย่าง ก้าวเสียไกล เกี่ยงกันเรื่องชาม สุดท้ายก็ไม่แยกชาม อาจารย์วันนอร์ก็ชามนึงแล้ว
ต่อไปก็ต้องรู้จักเผื่อแผ่คนอื่น จิตใจไม่คับแคบ มันก็จะอยู่กันได้นาน แต่ถ้าจิตใจคับแคบก็จะเป็นบทเรียนไปเรื่อยๆเป็นธรรมชาติของสรรพสัตว์ในโลกนี้
เมื่อถามว่า การได้รองประธานสภาคนที่ 1 เป็นนายปดิพัทธ์ สันติภาดา จากพรรคเป็นก้าวไกล จะทำให้บรรยากาศในการทำงานและขับเคลื่อนกฎหมายดีขึ้นหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็ได้ให้กำลังใจนายปดิพัทธ์ บอกให้เขาใจเย็นๆและเขาก็ได้ขอบคุณ