หลังจากมติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.2566 รับคำร้องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณา ในกรณีที่กกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงหรือไม่
ซึ่งเหตุผลของศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ประกอบวรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (5)
จึงสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้ผู้ถูกร้อง (นายพิธา) ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่ วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561
พร้อมกับมีคำสั่งให้นายพิธาในฐานะผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ดังนั้น ไทม์ไลน์ของคดีหุ้นสื่อไอทีวีหลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องจากกกต. ในวันที่ 19 ก.ค.2566 และมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
เท่ากับว่านับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เป็นต้นไป นายพิธาในฐานะผู้ถูกต้องในคดียังมีโอกาสในการยื่นแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน คือมีเวลาไม่เกินวันที่ 3 ส.ค.2566 ที่จะยื่นแก้ข้อกล่าวหา และหลังจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญจึงจะมีคำวินิจฉัยต่อไป