"ชูวิทย์" ลุยยื่นป.ป.ช.ปมที่ดินแสนสิริ เย้ยเศรษฐา นี่เป็นหลุมพรางผมเอง

07 ส.ค. 2566 | 07:50 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2566 | 08:14 น.

"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" เมินโดนฟ้อง 500 ล้าน บอก "เศรษฐา ทวีสิน" ว่านี่เป็นแผนหลุมพรางที่วางไว้ เดินหน้าให้ปปช.ดำเนินการ ปมที่ดินแสนสิริ ชี้จะเป็นนายกฯต้องพร้อมให้ตรวจสอบ

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ส่งทีมทนายฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาทช่วงเช้าที่ผ่านมากรณีที่ดินแสนสิริว่า เมื่อนายเศรษฐา เสนอชื่อมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งสามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ 

ส่วนที่นายวิญญัติ ทนายความของนายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ว่านายชูวิทย์ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในประเด็นดังกล่าวไม่ครบถ้วนนั้น นายชูวิทย์ตอบว่า "เป็นแผน ของผมเองที่ขุดหลุมพรางไว้และค่อยเอาหลักฐานมาชี้ในภายหลัง เพราะตามสไตล์ของผมเองจะพูดไม่หมดอยู่แล้ว

นายชูวิทย์ บอกว่ารู้สึกขนลุกที่นายเศรษฐาฟ้องดำเนินคดี เพราะตอนนี้มี 21 คดีแล้ว และคดีนี้เป็นคดีที่ผมทำเพื่อชาติบ้านเมือง การที่ นายเศรษฐา เสนอตัวเองเป็นนายกฯ คุณสมบัติของ นายเศรษฐา เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบได้

“นายกรัฐมนตรีต้องมีความสื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 เมื่อมีพฤติการณ์ซ่อนเร้น พฤติกรรมของ นายเศรษฐา เป็นคู่ซื้อ-ขาย เป็นคู่สัญญากันในการซื้อขาย ซึ่งตนเองก็เตรียมปรึกษาทนายความว่าจะฟ้องกลับ นายเศรษฐา ดีหรือไม่”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเดียวของนายเศรษฐา ภายในสัปดานี้จะเปิด EP.2 นายเศรษฐา สามารถชี้แจง และออกมาตอบได้ แต่กลับเงียบเงียบ ใช้การฟ้องปิดปากแทน

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้ช่วงบ่ายจะเดินทางไป ป.ป.ช. จะเปิดหลักฐานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ และยื่นกล่าวโทษเจ้าพนักงานที่ดินเขตพระนคร ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยการสนับสนุนจาก บมจ.แสนสิริ และผู้ขายที่ดิน

ทั้งนี้ เรื่องจริยธรรม เอาแค่เป็น สส. ไม่เป็นนายกฯ เสียบบัตรแทนกันก็ติดคุกแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องจริยธรรม ดังนั้น คนเป็นนายกฯ ต้องมีจริยธรรม 100% 

ส่วนที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ออกมาบอกว่า กฎหมายสามารถเลี่ยงได้ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจคำว่าวางแผนภาษี กับการโกงภาษี การวางแผนจะไม่จ่ายภาษี 500 ล้าน โดยมาตกลงกัน ไม่ต้องจ่าย และมีอะไรมาตอบแทนกัน ใช้วิธีโอนทีละวัน วันละคน เรื่องนี้ทำนิติกรรมคนเดียวไม่ได้ ต้องทำหลายคน ยืนยันแบบนี้ผิดกฎหมาย

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า อยากให้รอดูหลักฐาน เพราะไม่ใช่แค่แสนศิริที่ทำเป็นครั้งแรก ศาลอาญาคดีชำนัญพิเศษ เคยตัดสินกรณีลักษณะนี้มาก่อนแล้ว ในคดีคล้ายคลึงกัน การทำหนังสือจากสรรพากร ที่ดิน ห้ามทำ โดยโทษที่กรมสรรพากรเคยฟันดาบ มีโทษถึง 7 เดือนขึ้นไป ต่อ 1 กรรม กรณีนายเศรษฐา 12 กรรม ก็บวกไป ทั้งนี้ ตนชอบขุด เป็นนักแฉ จะขุดหลุมพรางไว้