"ไผ่ ลิกค์" ประกาศ พปชร.ยกพรรค โหวตนายกฯเพื่อไทย

16 ส.ค. 2566 | 08:08 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2566 | 08:18 น.

กลายเป็น"ท็อป ออฟ เดอะ ทาวน์"ทันที เมื่อ"ไผ่ ลิกค์"สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมายืนยันว่า สส.ทั้ง 40 คน จะโหวตหนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย

จากสถานการณ์การเมืองที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะยืดเยื้อ และส่งผลกระทบต่อประเทศโดยรวม อยู่ๆ ก็มีเสียงจาก"ไผ่ ลิกค์" ประกาศ 40 สส.ของพรรคพปชร. พร้อมโหวตให้นายกฯของพรรคเพื่อไทย เปิดทางให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

"ไผ่ ลิกค์" ให้เหตุผลว่า จากที่เห็นแกนนำพรรคเพื่อไทย ไปขอเสียงสนับสนุนการโหวตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล และมีแนวโน้มว่า พรรคก้าวไกลจะไม่สนับสนุน ทางสส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จึงพูดคุยกัน และต้องการให้ปัญหาการเมืองคลายตัว และตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้

"ไผ่ ลิกค์"ย้ำว่า การให้ข้อมูลต่อสื่อครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พลังประชารัฐไม่ได้สั่งให้ออกมาแสดงท่าทีใดๆ แต่ส.ส.ในพรรคคุยกันแล้ว คิดว่า พปชร.ไปไหนจะไปด้วยกัน อยู่ไหนจะอยู่ด้วยกัน ไม่ขาดแม้แต่คนเดียว เนื่องจากเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาจทำให้ประเทศถึงทางตัน การบริหารราชการแผ่นดินยากลำบาก

เบื้องต้น 40 สส. ของพลังประชารัฐ จะโหวตหนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ไม่เรียกร้องที่จะมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีข้อแม้ ไม่มีข้อเสนอ ไม่มีอะไรทั้งนั้น  

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ

ส่วนหลังโหวตเลือกนายกฯแล้ว พรรคเพื่อไทยเชิญร่วมรัฐบาล เราพร้อมอยู่แล้ว พร้อมเต็มที่ เพราะพปชร.เป็นรัฐบาลมา 4 ปีแล้ว ถ้าช่วยประเทศตรงไหนได้ พรรคพปชร.ก็พร้อมเต็มที่ 

"ไผ่ ลิกค์ "หรือ "ไผ่ วันพอยท์" เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2521 เป็นลูกชาย นายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับนางปราณี โชติรัชต์กุล 

สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อแรกสำเร็จการศึกษาได้กลับมาสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว แต่ด้วยความที่ชอบเครื่องจักรและยานยนต์มาตั้งแต่เด็ก จึงได้คิดเริ่มขยายธุรกิจมายังแวดวงรถยนต์และเต๊นท์รถมือสอง และเป็นหนึ่งในนักแข่งของทีมวันพอยท์ จึงเป็นที่มาของฉายา ไผ่ วันพอยท์

หลัง"เรืองวิทย์ ลิกค์"บิดา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองพร้อมกับกลุ่มบ้านเลขที่ 111 เขาจึงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในปี 2550 พรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง 

ต่อมาปี  2554 ลงสมัครอีกครั้งและได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก เอาชนะนายสุขวิชชาญ มุสิกุล บุตรชายนายปรีชา มุสิกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร  

ปี 2561 ย้ายมาสังกัด พรรคพลังประชารัฐ  และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 

ปี 2565 ช่วงที่  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีปัญหากับ "ลุงตู่" จึงย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมกับส.ส.ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส 

กระทั่งต้นปี 2566 "ไผ่ ลิกค์ "กลับเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ  พร้อมกับ 12 ส.ส.ในก๊วน ร.อ.ธรรมนัส อีกครั้ง หลังจากไปเป็นเวลากว่า 1 ปี