มีรายงานข่าวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กรมราชทัณฑ์ ระบุ เมื่อเวลา 01.00 น. (ตี1) วันนี้ 23 ส.ค. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เขตปทุมวัน เนื่องจากมีอาการป่วย
โดยรายงานข่าวระบุว่า นายทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องรอยัลสูท ชั้น 14 ตึก มปร. รพ.ตำรวจ
รายงานข่าวล่าสุด ระบุว่ารพ.ตำรวจ จะมีการแถลงข่าวเวลา 11.00 น. เกี่ยวกับรายละเอียดของประเด็นดังกล่าว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังรับตัวนายทักษิณมาแล้ว เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้จัดสถานที่เพื่อรองรับกรณีมีญาติมาเยี่ยม เนื่องจากผู้ต้องขังมีญาติ เพื่อน และองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน และมีความประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมจำนวนมาก โดยที่ทุกคนสามารถมาลงทะเบียนขอเยี่ยมได้ตามระเบียบของเรือนจำ
“ เนื่องจากนายทักษิณ มีอายุ 74 ปีถือว่าอยู่ในกลุ่มผู้ต้องขังสูงอายุที่ต้องเฝ้าระวังทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายและอนามัย ได้แยกตัวผู้ต้องขังไปอยู่ในสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครคนเดียวเพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขังคนอื่นและยังไม่ต้องกล้อนผมเหมือนผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากผมยังไม่ยาว และนายทักษิณ ได้ไว้ผมรองทรงซึ่งก็ถือว่าไม่ยาวมาก รวมทั้งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นผู้ใหญ่ที่ทางเรือนจำให้เกียรติ ”
ด้านนายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า แดนที่นายทักษิณอยู่เป็นสถานพยาบาลเพื่อระมัดระวังรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบาง และยึดหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยใช้ทีมแพทย์และพยาบาลของเรือนจำตรวจร่างกายตลอด
สำหรับอาหารของทางเรือนจำ ก็เป็นอาหารตามวงรอบ แต่ก็มีอาหารพิเศษที่มีร้านค้าเปิดจำหน่าย โดยผู้ต้องขังสามารถซื้อได้วันละ 500-600 บาท และเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ไม่มีโซเดียม ส่วนกิจวัตรของเรือนจำ ต้องปฏิบัติตามระเบียบเหมือนผู้ต้องขังคนอื่นทั่วไป
ขณะที่นายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ญาติของนายทักษิณ ได้นำประวัติการรักษา การตรวจร่างกายแบบ MRI จากการรักษาในโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ 2 แห่ง มาประกอบด้วย โดยเบื้องต้นพบว่านายทักษิณกำลังรักษาอยู่ 4 โรค คือ โรคหัวใจขาดเลือด ปอดอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท ซึ่งทั้ง 4 โรคนี้ ก็ถือว่าเป็นโรคที่ต้องใช้แพทย์เฉพาะทางทำการรักษา โดยเบื้องต้นได้เตรียมแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไว้แล้ว แต่หากโรคใดไม่มีแพทย์เฉพาะทางก็จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางของโรคนั้นอยู่
“ การส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาภายนอกจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย หรือการหลบหนีจากการคุมขังอีกด้วย ฉะนั้นจึงต้องใช้โรงพยาบาลของรัฐเป็นหลัก โดยอันดับแรกคือ โรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลเฉพาะทางในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข”
ด้านนายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการขอพระราชทานอภัยโทษสามารถยื่นคำร้องได้ตั้งแต่วันนี้ โดยตัวนายทักษิณหรือญาติ สามารถส่งเอกสารให้ทางเรือนจำฯ ก็ได้ และขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม และยื่นให้เรือนจำพิจารณา ก่อนที่จะส่งให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนาม ส่งให้สำนักองคมนตรี นำเรื่องขึ้นทูลเกล้าถวาย ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจ ซึ่งการขอพระราชทานอภัยโทษมี 2 ประเภท คือเฉพาะบุคคล และเป็นการทั่วไป โดยแต่ละเรื่องจะมีพระบรมราชวินิจฉัยเป็นแต่ละคราวไป