“สยามราช”ร้องดีเอสไอสอบปมแทรกแซงคดีกล่าวหาผู้บริหารบริษัทกลุ่ม ปตท.

26 ส.ค. 2566 | 08:09 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2566 | 08:22 น.

“สยามราช ผ่องสกุล”ร้องดีเอสไอสอบบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โยกย้ายจนท.พยานสําคัญ แทรกแซงคดีกล่าวหาผู้บริหารบริษัทกลุ่ม ปตท. ร่วมทําผิด พรบ.ตลาดหลักทรัพย์ พรบ.ฟอกเงิน และ พรบ.ฮั้วประมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา นายสยามราช ผ่องสกุล ได้ทำหนังสือถึง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทําความผิด มีพฤติกรรมเข้าไปแทรกแซงการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ ปกปิดซ่อนเร้นทําลายพยานหลักฐาน โยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคลและเป็นพยานสําคัญให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีในฐานะพยาน ทั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือผู้กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 200

โดยอ้างถึง หนังสือฉบับลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขอให้ดําเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทํา ความผิดตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535, พระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามอํานาจหน้าที่

ข้าพเจ้า นายสยามราช ผ่องสกุล ในฐานะผู้มีส่วนได้เสียและเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ปตท.จํากัด (มหาชน) บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จํากัด (มหาชน) (GGC), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) (PTTGC) ได้กล่าวหาผู้บริหาร บริษัท ปตท.จํากัด (มหาชน), บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จํากัด (มหาชน) (GGC), บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) (PTTOR) และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI), ก.ล.ต. และกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) รายละเอียด

ปรากฏตามหนังสือที่ได้อ้างถึง ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้าแห่งคดีแต่อย่างใด นอกจากคดีไม่ปรากฏความคืบหน้าแล้ว ยังปรากฏข้อเท็จจริงจากกลุ่มผู้ถือหุ้น และกลุ่มผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของ บริษัทปตท.และกลุ่มบริษัทใน เครือปตท.ว่า กรณีการครอบงําแทรกแซงบริษัท (Transfer Pricing) และ/หรือการสมยอมราคาน้ํามัน B100 กันนั้น

ผู้บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) (PTTOR) และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใน ในบริษัท PTTOR ไม่ให้ความร่วมมือในการเป็น พยาน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อันแสดงถึงพฤติกรรมเข้าไปแทรกแซงการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ และปกปิดซ่อนเร้นทําลายพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังได้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคลและเป็นพยานสําคัญในคดีให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่ในฐานะพยานบุคคลที่สําคัญ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีและเอกสารต่างๆ 

ทั้งนี้การกระทําดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200
โดยหนังสือฉบับนี้ ขอให้ท่านในฐานะพนักงานสืบสวน/สอบวน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้โปรดดําเนินการสอบสวนเป็นการเร่งด่วนว่า ผู้บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) (PTTOR) และ/หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด บุคคลใดที่เข้าไปแทรกแซงในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ 

โดยการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในบริษัท ไม่ให้ความร่วมมือในการเป็นพยานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และมีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพยานบุคคล และเป็นพยานสําคัญในคดีให้พ้นจากตําแหน่งหน้าที่เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีและเอกสารต่างๆ

หากปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน ขอให้ท่านมีคําสั่ง ดังนี้

1.มีคําสั่งตามอํานาจหน้าที่ ห้ามมิให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดและเข้าไปเกี่ยวข้องและ/หรือ ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และ/หรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเพื่อรอผลการสอบสวนเสร็จสิ้น

2.มีคําสั่งตามอํานาจหน้าที่ เรียกพยานบุคคลที่สําคัญมาให้การพร้อมเอกสารสําคัญแห่งคดีโดยด่วน

3.มีคําสั่งตามาอํานาจหน้าที่เพื่อระงับยังยั้งการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นพยานบุคคลที่สําคัญ โดยไม่เป็นธรรมนั้นเสีย อันเป็นหลักการคุ้มครองพยานในคดี

อนึ่ง หากท่านไม่ดําเนินการอาจเข้าข่ายในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 200

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและโปรดดําเนินการโดยด่วน