บิ๊กโจ๊กลั่น“กำนันนก”สั่งยิง แยก 25 ตำรวจร่วมงานเลี้ยง 3 กลุ่ม เล็งขอหมายจับ
“บิ๊กโจ๊ก”แยกคนร่วมงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก” ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มช่วยเหลือทำลายพยาน-กลุ่มช่วยเหลือพาคนร้ายหนี-กลุ่มไม่ทำอะไรเกิดเหตุแล้ววิ่งหนี มีหลักฐานหมดแล้ว เล็งขอหมายจับเพิ่ม ยัน “กำนันนก”คนสั่งยิง
วันนี้ (9 ก.ย. 66 ) บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมาว่า มีความคืบหน้าไปมาก หลังจากที่เมื่อวาน มีการขออนุมัติหมายค้นจากศาล และเข้าค้นที่บ้านพัก จุดเกิดเหตุ และออฟฟิศต่างๆ
“เวลานี้ทำให้แยก เป็น 2-3 กลุ่มได้แล้วว่า ตำรวจคนไหนที่เข้าไปช่วยเหลือ ปกป้องไปช่วยเอาผู้ร้ายหนี กลุ่มไหนที่เกิดเหตุแล้วหนีกระเจิดกระเจิงไปเลย วันนี้จะเรียกตำรวจทั้งหมด 25 คนมาสอบปากคำ
แต่ว่าข้อมูลจากการสืบสวนเรามีครบอยู่แล้ว วันนี้ก็น่าจะสมบูรณ์ และถึงแม้ว่าจะให้การโกหกอย่างไร ให้การไม่ตรงอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งนี้เมื่อสอบสวนเสร็จแล้ว และจะทราบว่าใคร มีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องมาก เช่น ช่วยเหลือผู้ต้องหา ช่วยเหลือในการทำลายพยานหลักฐาน ช่วยในการพาผู้ต้องหาหนี ก็จะขออนุมัติหมายจับจากศาล เพราะฉะนั้นวันนี้ในส่วนสำนวนหลัก ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะดำเนินการ
ในส่วนสำนวนการช่วยเหลือผู้ต้องหา การละทิ้งที่เกิดเหตุ การไม่ทำหน้าที่ อันเป็นความผิดในเรื่องของการช่วยผู้ต้องหา ความผิดฐาน 157 ความผิดฐานทำลายพยานหลักฐาน วันนี้ก็จะสอบให้สิ้นกระแสความ และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะไปขออนุมัติหมายจับ ถือเป็นความก้าวหน้าของคดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มว่า ส่วนวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ หรือมูลเหตุ ว่ากำนันเป็นคนสั่งยิงจริงหรือไม่ วันนี้ก็มีพยานหลักฐาน ที่น่าจะยืนยันได้ชัดเจนแล้ว จากการเร่งสอบปากคำเมื่อวาน ทำให้วันนี้มีพยานหลักฐาน ยืนยันชัดเจนแล้วว่า คนสั่งยิงนั้นคือ กำนัน (กำนันนก) ถือเป็นประเด็นในสำนวนที่สำคัญ
อย่างไรก็ดี วันนี้เราก็ต้องให้ความเป็นธรรม ตราบใดก็ตาม ที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด ก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ว่าในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำเข้าสู่ศาลก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ก็มีความก้าวหน้าไปเยอะ
คดีนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน เพราะว่าพยานหลักฐานนิ่ง ตัวผู้ต้องหาก็นิ่งอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่กำลังทำต่อ ก็คือการไล่ข้อมูลทั้งหมด เพื่อขยายวงว่าใครเป็นเครือข่ายของกำนันนกบ้าง จะได้ถอนกล้าถอนโคนให้สิ้นซาก
เมื่อถามถึงกรณีหลังเกิดเหตุมีชายชุดดำ เข้าไปทำอะไรบางอย่างในที่เกิดเหตุ และปล่อยให้ “หน่อง หนีไปนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีจริง เมื่อวานก็สอบแล้วรู้ตัวแล้ว ว่าใครเข้าไปทำอะไรบ้าง วันนี้ก็สรุปได้ว่ามีการช่วยแน่นอน ใครช่วยบ้าง ตอนนี้เรารู้อยู่แล้ว ก็จะดำเนินคดีให้หมด
“สรุปได้ว่า วันนี้ที่มีการหลบหนีได้ เพราะมีการช่วย ละทิ้งที่เกิดเหตุ บางส่วนก็หนีไป ก็คือไม่ได้ทำหน้าที่ของตำรวจ และยังไปช่วยผู้ต้องหาอีก ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย”