วันนี้ (18 ต.ค. 66) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และ พรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ... กฎหมายอาญา มาตรา 112
โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิ หรือ เสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่
ต่อมา ผู้ถูกร้องทั้งสอง ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยาน ฉบับลงวันที่ 26 ก.ย.2566
รวมถึงคดีที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง
ทำให้ถือว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้น หรือ กิจการของห้างหุ้นส่วน ที่เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187
ประกอบพ.ร.บการจัดการหุ้นส่วนและคุ้มครองรัฐมนตรี 2543 มาตรา4(1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลง เฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
โดยทั้งสองคดี ศาลรัฐธรรรมนูญเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาจึงให้รอคำชี้แจง และพยานหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกไปก่อนหน้านี้