"สุดารัตน์"ชี้นายกฯ แก้หนี้นอกระบบแค่ปลายเหตุยังไม่เห็นอะไรใหม่

30 พ.ย. 2566 | 11:17 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ย. 2566 | 11:21 น.

"สุดารัตน์"ชี้นายกฯ แก้หนี้นอกระบบ แค่ปลายเหตุ ยังไม่เห็นอะไรใหม่ พอที่ประชาชนจะอุ่นใจขึ้น แนะเปิดใจนำนโยบาย "กองทุนเครดิตประชาชน" ของ"ไทยสร้างไทย"ไปใช้ เพื่อให้โอกาสให้ประชาชน ได้เข้าถึงแหล่งทุน สร้างเนื้อสร้างตัว ทำมาหากิน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มองมาตรการแก้หนี้นอกระบบที่นายกรัฐมนตรีแถลง ไม่มีอะไรใหม่พอที่ประชาชนจะพึ่งพาได้ ซึ่งส่วนตัวก็ดีใจที่รัฐบาลมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ถือเป็นสิ่งดี 
แต่มาตราการที่แถลงยังเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการที่นำมาใช้ยังเป็นรูปแบบเดิมๆ ซึ่งมีกฎหมายบังคับใช้อยู่แล้ว ทั้งการทวงหนี้โหด และการปล่อยกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 

จึงขอฝากนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องตั้ง KPI เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานราชการ เพื่อบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวด และจัดการกับ คนมีสี เจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

ส่วนมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน และเห็นผล นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ให้ความชัดเจนต่อสังคม ว่าจะแก้ไขอย่างไร 

แต่พรรคไทยสร้างไทย ได้เสนอแนวคิดไปหลายครั้งว่า ต้นตอของปัญหาหนี้นอกระบบ คือ ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน เช่น เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย กระทั่งนักศึกษาจบใหม่ จึงต้องไปกู้หนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแสนโหด สูงถึงร้อยละ 20 ต่อเดือน หรือ เท่ากับ 240 % ต่อปี 

ขณะที่คนรวยสามารถกู้เงินในระบบผ่านธนาคารได้ ดอกเบี้ยเพียง 3 ถึง 6% ต่อปี แล้วเราจะแก้จนได้อย่างไร หนี้นอกระบบจึงเป็นเพียงแหล่งทุนเดียวของคนตัวเล็ก 

ดังนั้น รัฐบาลจึงควรที่จะ “แจกเครดิต” ให้กับประชาชน มิใช่มุ่งเพียงการแจกเงินเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อนำเงินไป ประกอบอาชีพสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างงาน สร้างรายได้ 

โดยพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอ “กองทุนเครดิตประชาชน” หรือ “กองทุนคนตัวเล็ก” เพื่อให้เครดิตกับประชาชน ได้มีทุนตั้งตัว ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยประชาชนสามารถกู้ได้ตั้งแต่ 10,000 บาท หากรักษาเครดิตได้ดี ภายในระยะเวลา 6 เดือน สามารถกู้เพิ่มเติมได้ เป็น 50,000 บาท จนถึง 1 แสนบาท ซึ่งจะเป็นการให้โอกาส คนตัวเล็ก ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำเงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อนำเงินไปลงทุน ในการสร้างเนื้อสร้างตัว สามารถทำมาหากินได้ สร้างงานสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณ โดยแบ่งจากเงินกู้ 6 แสนล้านบาท มาใช้ใน กองทุนดังกล่าวประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เป็นการแจกเงินแต่เป็นการให้ประชาชนยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 

จึงขอให้นายกรัฐมนตรี ได้เปิดใจพิจารณานโยบายที่เป็นประโยชน์ เพื่อการแก้หนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน ของพรรคไทยสร้างไทยไปใช้ ซึ่งมั่นใจว่า "กองทุนเครดิตประชาชน" จะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างเป็นรูปธรรม พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง โดยที่รัฐบาลไม่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน หรือเสี่ยงเดินหน้าทำนโยบายที่อาจขัดต่อ กฎหมายวินัยการเงินการคลังและรัฐธรรมนูญ