จากกรณีที่วันนี้ 19 ธันวาคม 2566 ภายหลัง คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ประชุมเสร็จ นาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะลาพักร้อนตั้งแต่เวลา 13.00 น. (19 ธ.ค.2566) จนถึงวันที่ 22 ธ.ค.2566 รวมเวลาพักร้อนทั้งสิ้น 4 วัน การลาพักร้อนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เนื่องจากต้องการไปดูแลมารดาที่อายุมากแล้ว รวมถึงลูกชายทั้ง 2 คนที่จะกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้พบกันนานแล้ว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ การลาพักร้อนของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.- 22 ธ.ค. 66 ว่า การลาพักร้อนถือเป็นเรื่องธรรมดาและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็สามารถลาพักร้อนได้ ซึ่งกรณีนายกฯ ลูกชายท่านกลับมาจากสหรัฐอเมริกา และมาเจอกับนายกฯ ที่เพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ดังนั้นเมื่อกลับมาเมืองไทยก็จะมาเจอกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก ซึ่งการลาพักร้อน 2-3 วัน ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก
แล้วนายกฯ ก็สามารถทำงานโดยที่ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบฯ ได้อยู่แล้ว เพราะมีอะไรก็สามารถประสานงานเร่งด่วนได้ รวมถึงยังสามารถมอบหมายให้คนอื่นรักษาการแทนได้ อีกทั้งกรณีนี้นายกฯ อยู่ในประเทศจึงไม่น่ามีปัญหาอะไร ตนถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกการลาพักร้อนสามารถทำได้ทั้งนั้น เมื่อถามว่า ต่อไปรัฐมนตรีก็สามารถลาพักร้อนได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็สามารถลาได้ซึ่งมีระเบียบให้ลาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ช่วงที่นายกฯ ลาพักร้อน นายภูมิธรรม จะต้องรักษาการในตำแหน่งนายกฯ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่านมอบหมาย
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึง กรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด ขณะนี้แต่ละพรรคมีสิทธิ์เสนอกฎหมายอะไรก็ได้ หากเสนอในสภาฯ ก็จะพูดคุยกันในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และต้องพิจารณาเนื้อหาว่า จะเสนอร่างประกบกันได้หรือไม่ และหากคุยกันเรียบร้อยก็จะต้องมาพูดคุยกับรัฐบาลว่ามีอะไรขัดข้องหรือไม่