กมธ. ต่างประเทศ เห็นด้วยเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนขึ้นปราสาทพระวิหาร

11 ม.ค. 2567 | 09:05 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ม.ค. 2567 | 09:11 น.

กมธ. ต่างประเทศ เห็นด้วยกับการเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนขึ้นปราสาทพระวิหาร สร้างรายได้ เพิ่มนักท่องเที่ยว ขอรัฐบาลเจรจากับกัมพูชาให้สำเร็จ

วันที่ 11 ม.ค. 2567 นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงข่าวหลังจากประชุมหารือประเด็นการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ ตามที่นายธเนศ เครือรัตน์ สส. พรรคเพื่อไทย จังหวัดศรีสะเกษได้ยื่นเรื่องเสนอเข้ามาให้ กมธ. ต่างประเทศ พิจารณา โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กรมแผนที่ทหาร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายธเนศ เครือรัตน์ เข้าร่วมประชุม

หลังจากรับฟังทุกฝ่าย กมธ. ต่างประเทศ เห็นพ้องกับข้อเสนอของนายธเนศและหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการผลักดันให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีการปิดทางขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างชายแดนในบริเวณดังกล่าวซบเซาจนถึงปัจจุบัน และเป็นความร่วมมือของทั้งไทยและกัมพูชา

โดยนายนพดลเห็นว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ได้คลี่คลายลง และทั้งสองฝ่ายต่างมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ซึ่งนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ก.พ. 2567 ตามคำเชิญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตนจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการพูดคุยและผลักดันให้มีการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ตนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น และยังส่งเสริมการเดินทางข้ามแดนไปมาระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระดับพื้นที่อีกด้วย

กมธ. ต่างประเทศ เห็นด้วยเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนขึ้นปราสาทพระวิหาร

 

“ข้อมูลในอดีตพบว่าเคยมีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารปีละประมาณ 700,000 คน” หากมีการเปิดจุดผ่อนปรนเขาพระวิหาร จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และทั้งสองประเทศย่อมได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและเกิดการกระตุ้นการค้าระหว่างกันมากขึ้น”.