ประเดิม“ทนายอั๋น”ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย จี้กกต.เร่งชงศาลรัฐธรรมนูญ

19 ม.ค. 2567 | 08:49 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2567 | 08:56 น.

“ทนายอั๋น”ประเดิม ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย จี้กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ จากพิษคดีหุ้น“ศักดิ์สยาม” พร้อมเตรียมร้อง “ดีเอสไอ” ตรวจสอบเส้นทางการเงิน หจก.บุรีเจริญฯ

วันนี้ (19 ม.ค. 67) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรมว.คมนาคม สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2566

จากกรณี นายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น และให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตามบทบัญญัติของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 90 (2) และ มาตรา 92 (3)

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันประชาชนทุกคนไม่ใช่เฉพาะคู่ความ ตนเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องมายื่นต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคำวินิจฉันเรื่องดังกล่าว ที่มีนัยสำคัญว่า นายศักดิ์สยาม มีหุ้นของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น นั้น ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ นั่นหมายความว่า นายศักดิ์สยาม มีความเป็นเจ้าของของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯ 

และในขณะที่ นายศักดิ์สยาม เป็นเจ้าของ หจก.ดังกล่าว ก็รับงานทำถนนสร้างถนนหลวงมูลค่าหลายพันล้านบาท จึงมีข้อน่าสงสัยว่า เงินดังกล่าวอาจจะเป็นการได้งานได้เงินมาจากการ “ฮั้วประมูล” หรือไม่ ซึ่งงานและเงินที่ได้จากการฮั้วประมูลนั้น ถือเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  และเงินนี้มีการนำไปบริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 

                             ภัทรพงศ์ ศุภักษร

อีกทั้งพรรคเองก็รับเอาเงินบริจาค ที่ถือเป็นเงินไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำขัดต่อมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้ จะไปยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าเริ่มมาจากจุดไหน โดยใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นข้อมูลเบื้องต้นเริ่มต้น เนื่องจากได้วินิจฉัยไปแตะข้อเท็จจริงเรื่องเงินของหจก.บุรีเจริญฯ อาจได้มาซึ่งการฮั้วประมูล ซึ่งการฮั้วประมูลมีความผิดทางกฎหมายในทางอาญาที่มีโทษสูง 

"อยากให้ตรวจสอบเงินหจก.ดังกล่าว ที่มี นายศักดิ์สยาม เป็นเจ้าของตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าได้นำเงินไปแจกจ่าย ถ่ายเทไปยัง ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย คนไหนหรือไม่ด้วย ซึ่งไม่ต้องห่วงถ้าผิดจริงโทษอาญารออยู่อีกเยอะ" นายภัทรพงศ์ ระบุ