ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส. ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เนื่องจากในวันที่ 4 เม.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันที่พรรคก้าวไกลยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แม้นายพิธา จะเป็นผู้ถือหุ้น 42,000 หุ้น
แต่ในวันดังกล่าวบริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน ได้สิ้นสภาพความเป็นสื่อไปก่อนแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2550 ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้บอกเลิกสัญญานั้น
ส่งผลให้ นายพิธา ได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต่อไป
ขณะเดียวกัน นายพิธา เคยให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ "เนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก." ดำเนินรายการโดย สมชาย มีเสน วีระศักดิ์ พงษ์อักษร และ บากบั่น บุญเลิศ 3 บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น เผยแพร่ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 ก่อนหน้านี้ ในประเด็นถือหุ้นสื่อ ว่า “หากศาลตัดสินออกมาเป็นคุณ จะทำหน้าที่ต่อในสภาฯ ถ้าเป็นโทษ ยังทำหน้าที่ต่อ แต่ไปทำงานนอกสภาฯ”
เมื่อถามว่าหากถูกตัดสินไม่ผิด จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกครั้งหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “แล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะมีการประชุมใหญ่ช่วงปลายเดือนเมษายนนี้”
ทั้งนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ นายพิธา ไม่มีความผิด นายพิธา จะกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกครั้ง หลังจากลาออกไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2566 และได้ผลักดัน นายชัยธวัช ตุลาธน ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแทน
โดยเมื่อ นายพิธา ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็จะแต่งตั้งให้ นายชัยธวัช กลับมาทำหน้าที่เลขาธิการพรรคอีกครั้ง