เปิดคำวินิจฉัยฉบับเต็มศาลรธน. คดีศักดิ์สยามซุกหุ้น

16 ก.พ. 2567 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2567 | 08:01 น.

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดี "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรักชั่น ด้าน "นิวัฒน์ชัย" เลขาธิการ ป.ป.ช. ลับมีดรอเชือดปมยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จหรือไม่

16 กุมภาพันธ์  2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซุกหุ้นฉบับเต็มเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น นายนิวัฒน์ชัย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยรายละเอียด​ขั้นตอนของ​ ป.ป.ช. หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย 

เบื้องต้นการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายศักดิ์สยาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยในการตรวจสอบจะมีประเด็นว่า บริษัทที่อ้างว่า​ เป็นของนายศักดิ์สยาม (หจก.บุรีเจริญคอนสตรักชั่น) และมีนอมินีถือหุ้นแทนตามคำวินิฉัยของศาล 

คลิกอ่านรายละเอียด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรักชัน 

"เราต้องเอาคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาดูประกอบกันว่า สิ่งที่ศาลวินิจฉัยมีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร​ ดังนั้น​ ในประเด็นถ้าเป็นของนายศักดิ์สยามตามคำวินิจฉัย นายศักดิ์สยามได้ยื่นบัญชีของบริษัทนี้เข้ามาด้วยว่า เป็นทรัพย์สินของตัวเองหรือไม่ และเหตุใดถึงไม่ยื่น หรือมีการปกปิดเช่นใด

กระบวนการขั้นต่อไป กรณีถ้ามีมูลก็ต้องดำเนินการแจ้งข้อหาให้ นายศักดิ์สยามได้มีโอกาสชี้แจงแก้ข้อหาในประเด็นนี้ก่อนที่จะพิจารณาวินิจฉัยซึ่งเป็นเรื่องของการตรวจสอบบัญชีที่ระบุว่า​ จงใจปกปิดยื่นเท็จหรือไม่

ส่วนประเด็นกรณีความร่ำรวยปกติหรือไม่ต้องตรวจสอบเปรียบเทียบบัญชีว่า​ ถ้ามีบริษัทไม่ได้ยื่นมาและมูลค่าไม่มีที่มาที่ไป ร่ำรวยหรือไม่ เป็นอีกขั้นหนึ่งที่ต้องไปพิจารณาต่อไป 

ต่อข้อซักถามที่ว่า​ กรณีหากพบว่า มีทรัพย์สินหรือความร่ำรวยผิดปกตินั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้ร้องก่อน ป.ป.ช.จะดำเนินการหยิบขึ้นมาพิจารณาได้เอง​โดยยืนยันว่า​

คณะกรรมการ​ ป.ป.ช. มีอำนาจหยิบยกเหตุอันควรสงสัยขึ้นมาได้เลยหรือความปรากฏต่อคณะกรรมการ​ ป.ป.ช.ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน เว็บไซต์​ บัตรสนเท่ห์ต่าง ๆ หากไม่มีตัวผู้ร้องทุกข์​ ป.ป.ช.หยิบยกขึ้นมาได้

ทั้งนี้​ สำหรับสำนวนคดีนี้ ป.ป.ช.จะต้องเชิญผู้ถูกร้อง ผู้ถูกล่าวหาชี้แจงซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องว่า

เรื่องต่าง​ ๆ​ ที่ร้องเรียนมาต้องเปิดโอกาสให้บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อหาก่อน​ จากนั้นจึงจะสรุป​ ไม่ใช่อยู่​ ๆ​ ว่ารวบรวมพยานหลักฐานเเล้ว ชี้มูลข้างเดียว ไม่สามารถทำได้เพราะกระบวนการจะผิดขั้นตอน​ ป.ป.ช.อาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้ว่า ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญน่าจะอยู่ระหว่างการดำเนินการเเละเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณา คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรแต่ต้องมาดูในแง่มุมก่อนว่า ผูกพันในลักษณะไหน เลขา​ฯ ป.ป.ช.​ กล่าวทิ้งท้าย