เปิดไอเดีย“กกต.”รับมือคัดเลือกส.ว.ชุดใหม่ 200 คน

01 มี.ค. 2567 | 02:30 น.

ส.ว.ชุด“คสช.”หมดวาระลง 11 พ.ค. 2567 กกต.มอบไอเดีย ผอ.77 จังหวัด รับมือผู้สมัครที่อาจมีจำนวนมาก อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษา-ตรวจสอบคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้ามล่วงหน้าก่อนยื่นสมัคร : รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3971

สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดปัจจุบัน จำนวน 250 คน ซึ่งมาจากกระบวนการสรรหาและคัดเลือกโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะหมดวาระลงภายในวันที่ 11 พ.ค. 2567 นี้

ผู้ที่จะเป็น “เจ้าภาพ” ในการคัดเลือกให้ได้ ส.ว.ชุดใหม่ จำนวน 200 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2560 คือ “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ กกต.


วิธีรับมือคัดเลือก ส.ว.

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. ได้ส่งข้อความแจ้งถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กกต.จว.) ระบุว่า มีแนวคิดและวิธีที่จะรับมือผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่อาจมีจำนวนมาก เพื่ออธิบายเรื่องราวหรือผลกระทบที่อาจจะตามมาจากการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม โดยจะเปิดโอกาสและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะสมัครสมาชิกวุฒิสภา 

โดยให้มีการตรวจสอบเบื้องต้น ปรึกษาเรื่องคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาล่วงหน้า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปเลย เพื่ออำนวยความสะดวก ประเมินจำนวนผู้สนใจ ทราบความเคลื่อนไหวของผู้ประสงค์จะลงสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา และบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันประกาศผล โดยให้ไปยื่นเอกสารหรือขอคำปรึกษา ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทุกจังหวัด 77 แห่ง”

ทั้งนี้ สำนักงาน กกต. อาจจะออกแบบตรวจเบื้องต้น 2 แบบ แบบแรกเป็นแบบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ว่าผู้นั้นมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามหรือไม่ (อาจเป็นแบบใบติ๊ก) พร้อมโทษของผู้สมัครและผู้รับรอง 

แบบที่ 2 เป็นแบบกลุ่มสาขาอาชีพที่จะลงสมัคร ด้วยการเตรียมการลักษณะนี้น่าจะทำให้เห็นหน้างานพอสังเขป และสามารถบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อถึงวันจริง จนถึงวันประกาศผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการทำหน้าที่ของ ส.ว.ชุดปัจจุบัน จะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 11 พ.ค. และจะทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี ส.ว.ชุดใหม่ จำนวน 200 คน เข้าทำหน้าที่แทน

ก่อนหน้านี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ออกมากล่าวถึงการเตรียมความพร้อมคัดเลือก ส.ว. ว่า มีการของบประมาณไปแล้วประมาณ 1,800 ล้านบาท ขณะที่ระเบียบการเลือก ส.ว. ประกาศราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว และขอให้ทุกภาคส่วนที่เป็นทีม กกต. ศึกษา และเตรียมการทำงาน

ขั้นตอนเตรียมเลือกส.ว.  

สำหรับระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ได้ลงประกาศราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีสาระคือ 

ก่อนวันที่อายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า 30 วัน ให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ประสาน ผู้ว่าฯ และนายอำเภอ เพื่อเตรียมการแต่งตั้งบุคคลเป็นคณะกรรมการระดับอำเภอและคณะกรรมการระดับจังหวัด

ในการเปิดการรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้เริ่มรับสมัครไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภามีผลใช้บังคับ และกำหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วัน แต่ไม่เกิน 7 วัน

วันเลือกในระดับอำเภอ ต้องไม่เกิน 20 วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร วันเลือกในระดับจังหวัดต้องไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันเลือกในระดับอำเภอ 

และวันเลือกในระดับประเทศต้องไม่เกิน 10 วัน นับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด 

ในการกำหนดวันเลือกในแต่ละระดับ ต้องเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร              

                      เปิดไอเดีย“กกต.”รับมือคัดเลือกส.ว.ชุดใหม่ 200 คน

ส.ว.มาจาก 20 กลุ่ม

สำหรับการแบ่งกลุ่มผู้ที่จะสมัครรับเลือกเป็น ส.ว. จำนวน 20 กลุ่ม 200คน ประกอบด้วย 

1.กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง เช่น อดีตข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

2.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

3.กลุ่มการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

4.กลุ่มการสาธารณสุข เช่น แพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

5.กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

6.กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน                                   

7.กลุ่มพนักงานลูกจ้างที่ไม่ใช่ราชการหรือหน่วยงานรัฐ ผู้ใช้แรงงาน อื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

8.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาฯ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

9.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อยตามกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

10.กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจาก (9)

11.กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการอื่นหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

12.กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

13.กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตรกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

14.กลุ่มสตรี

15.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้ทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

16.กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

17.กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

18.กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

19.กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

20.กลุ่มอื่นๆ

ขั้นตอนคัดเลือก ส.ว. 

เมื่อผู้สมัครผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วน จะเข้าสู่กระบวนการเลือกกันเองภายใน 20 กลุ่ม ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิเลือกสมัครได้แค่หนึ่งกลุ่มและในหนึ่งอำเภอโดยทุกกลุ่มจะเลือกกันเอง เมื่อได้ตัวแทนระดับอำเภอก็ไปคัดเลือกกันเองต่อในระดับจังหวัด แล้วไปคัดเลือกกันเองต่อในระดับประเทศ 

โดยผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 อันดับแรกของกลุ่มๆ นั้น ได้รับเลือกเป็น ส.ว.จะได้ตัวแทนจาก 20 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน เป็นตัวจริงที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว. 200 คน

สำหรับผู้ที่จะสมัครเป็น ส.ว.นั้น จะต้องมีอายุอย่างน้อย 40 ปี และมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือ ทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี และต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือ มีลักษณะต้องห้ามอื่น ๆ 

ส.ว.ชุดใหม่ 200 คน ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มนับอายุตั้งแต่วันที่ กกต.ประกาศผล

ส.ว.ชุดใหม่แม้จะไม่มีอำนาจร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี กับ ส.ส. แต่อำนาจหลักอื่นๆ ยังคงมีอยู่ครบเต็มมือ...