“บิ๊กโจ๊ก”ดับเครื่องชน“นายกฯ”ยื่นป.ป.ช.สอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

22 เม.ย. 2567 | 05:41 น.
อัปเดตล่าสุด :25 เม.ย. 2567 | 10:39 น.

“บิ๊กโจ๊ก”บุกป.ป.ช.ร้องสอบกราวรูด “นายกฯ” ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขณะที่ตำรวจสอบสวนคดีฟอกเงินไม่ชอบ โวยถูกกลั่นแกล้งไม่ให้ได้เป็น ผบ.ตร. จ่อฟ้องรักษาการ ผบ.ตร.คดีอาญา คิวต่อไปเตรียมชำแหละ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น

วันนี้ (22 เม.ย.67) เมื่อเวลา 10.45 น. บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ได้เดินไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเข้ายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษนายกรัฐมนตรี และพนักงานสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้อง หลังถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน จากข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ BNK โดยเป็นการกล่าวหา 3 ส่วน ดังนี้ 

1. ร้องทุกข์กล่าวโทษนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ 

2. ร้องทุกข์ว่าการสอบสวนไม่ชอบ 

และ 3. ร้องทุกข์กล่าวโทษคณะพนักงานสอบสวนทั้งชุด ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

                      “บิ๊กโจ๊ก”ดับเครื่องชน“นายกฯ”ยื่นป.ป.ช.สอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ภายหลังการยื่นคำร้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำชาร์ตรายละเอียดไทม์ไลน์มาประกอบการแถลงข่าว เพื่อลำดับเหตุการณ์ในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่ตรวจสอบพบ การใช้บัญชีม้าของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธร สำโรงเหนือ การถูกตั้งข้อหา ออกหมายจับคดีฟอกเงิน จนไปสู่การออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยืนยันว่า เป็นการสอบสวนโดยไม่ชอบ เพื่อขวางไม่ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เนื่องจากคดีเว็บพนันออนไลน์ ตำรวจสอบสวนไม่ชอบหลายประเด็น สอบสวนโดยไม่มีอำนาจ เพราะด้วยวงเงินหมุนเวียนในเว็บพนันก็ชัดเจนว่าเป็นอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

ดีเอสไอทำหนังสือถึง สน.เตาปูน ให้โอนสำนวนมาดีเอสไอ แต่ สน.เตาปูน อ้างว่าวงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท ขณะที่เอกสารในการยื่นออกหมายจับลูกน้องของตน ระบุวงเงินธุรกรรม 490 ล้านบาท ชี้ให้เห็นถึงสาเหตุเพื่อเก็บสำนวนไว้เล่นงาน กะเอา “โจ๊ก” ให้ตาย ดีเอสไอจึงทำเป็นสำนวนสืบสวน คดีเว็บพนันออนไลน์ BNK ระบุเป็นคดีพิเศษ แต่พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ดีเอสไอจึงส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช. กรณีนี้หาก ป.ป.ช.ไม่รับไว้สอบสวนเอง จะส่งสำนวนกลับมาให้ดีเอสไอดำเนินการ 

                        “บิ๊กโจ๊ก”ดับเครื่องชน“นายกฯ”ยื่นป.ป.ช.สอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นอำนาจการสอบสวน การออกหมายจับ ถือว่าน็อกตั้งแต่ต้น เมื่อการสอบสวนไม่ชอบ รายละเอียดเนื้อไม่ต้องพูดถึง ถือว่าล้มทั้งกระดาน คนดำเนินคดีอาจต้องติดคุกเสียเอง 

“การลงโทษทางวินัยให้ผมออกจากราชการ ทำได้ แต่ตอนจบจะเป็นหนังคนละม้วน คดีลักษณะนี้มีฎีกาเป็นคดีตัวอย่างมาแล้ว” พล.ต.อ.สุรเชษ์  ระบุ

พร้อมระบุว่า วันนี้มายื่นคำร้องกล่าวหา นายกฯ กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157) รวมถึงร้องกล่าวหาคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมด และอีก 3-4 วัน จะมายื่นกล่าวหาเพิ่มเติม รวมถึงรักษาการ ผบ.ตร. ด้วย ซึ่งจะยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ด้วย 

ระหว่างนี้ขอไปนั่งเอาหัวชนกันให้ดี การส่งตัวผมกลับต้นสังกัด ให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีการร่วมกันเป็นขบวนการ วันนี้เอาเรื่องอาญาก่อน เดี๋ยวเรื่องวินัยที่ตามมาจะสนุกกว่านี้

                                  “บิ๊กโจ๊ก”ดับเครื่องชน“นายกฯ”ยื่นป.ป.ช.สอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

 

“ถ้าสอบสวนแบบนี้ มหาวิทยาลัยก็ไม่ต้องสอนนักเรียน ความเป็นธรรมอยู่ตรงไหน รอง ผบ.ตร. ยังโดนขนาดนี้ ประชาชนจะโดนขนาดไหน วันนี้ถ้าผิดจริงผมลาออกแล้ว ที่อยู่สู้แบบนี้เพราะการสอบสวนไม่ชอบ ทำเหมือนอาญาเถื่อน นายกฯ สั่งตั้งกรรมการสอบสวน 60 วัน เรียกตัวผมมาช่วยราชการ แต่กรรมการสอบยังไม่ได้เรียกสอบ ยังสอบไม่เสร็จ นายกฯ ก็ส่งตัวกลับต้นสังกัด จากนั้นมีคำสั่ง ให้ออกจากราชการ เป็นการกลั่นแกล้งไม่ให้ผมเป็น ผบ.ตร. ถ้าผมเป็น รอง ผบ.ตร. อันดับ 6 ก็คงไม่มีปัญหา”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันด้วยว่า สำนวนที่ส่งมา ป.ป.ช. สถานะของตนคือผู้บริสุทธิ์ ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งระบุชัดห้ามนำมาใช้ในการแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้มีการส่งสำนวน ป.ป.ช. ตามหลัง กล่าวคือ มีคำสั่งให้ตนออกจากราชการ วันที่ 18 เม.ย. 2567 แต่ส่งสำนวนไป ป.ป.ช. วันที่ 19 เม.ย. 2567 แต่ตามรัฐธรรมนูญให้ถือว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด แบบนี้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่

                         “บิ๊กโจ๊ก”ดับเครื่องชน“นายกฯ”ยื่นป.ป.ช.สอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงคำร้องคัดค้านการทำหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า “เรื่องเอกสารหลุดขอไม่พูด สื่อก็เห็นอยู่แล้ว คงมองออกว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ รวมทั้งขอยังไม่พูดถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องนี้ขอรอดูการดำเนินการของ ป.ป.ช.อีก 2-3 วัน”

 “เรื่องนี้ที่มาที่ไปเยอะ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น ผมเป็นคนใต้ มีเลือดนักสู้ ถ้าเป็นคนอื่นคงหมอบแล้ว ถ้าไม่สู้คงเสียสิทธิไปตลอดชีวิต ถ้าทำเป็นธรรม หรือเป็นเรื่องจริง ผมคงไม่สู้ แต่นี่สอบสวนโดยไม่มีอำนาจ ผิดตั้งแต่ต้น เรื่องเนื้อในจึงไม่ต้องพูดถึง 

                               “บิ๊กโจ๊ก”ดับเครื่องชน“นายกฯ”ยื่นป.ป.ช.สอบปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ที่ผ่านมายื่นร้อง คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เรามี พ.ร.บ.ตำรวจ นายกฯ จะใช้อำนาจอะไรก็ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ วันนี้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของ ป.ป.ช. ส่วนจะได้กลับมารับราชการหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้กลับไปเป็นข้าราชการตำรวจ จะหันไปเล่นการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า "ตอนนี้ยังไม่ได้คิด เอาเรื่องสู้คดีก่อน เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกหลาน ว่าการกระทำโดยมิชอบจะมีผลอย่างไร"