วันนี้(24 เม.ย. 67) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ 6 ต่อ 0 เสียง จากกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ภายหลังศาลฎีกานักการเมือง ยกฟ้อง และเพิกถอนหมายจับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจ้างเอกชนทำโครงการโรดโชว์อนาคตประเทศไทย 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท ที่ ป.ป.ช. เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ต่อศาลฎีกานักการเมืองเอง
มติดังกล่าวของ ป.ป.ช. ส่งผลให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่มีคดีใด ๆ ค้างเหลืออยู่ในชั้น ป.ป.ช.อีกต่อไป
สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และ นายระวิ โหลทอง เป็นจำเลยที่ 1-6
โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต มุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม กรณีการจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท
ศาลฎีกาฯ มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด โดยระบุเหตุผลว่า ไม่พบเจตนาในการเอื้อประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ด้วย
แต่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 1 คดี ในคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โทษจำคุก 5 ปี และอีกคดีศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้อง กรณีกล่าวหาโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบ หลังจากนั้นอัยการสูงสุด (อสส.) ชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีนี้