วันนี้ (1 พ.ค.67) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 วินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 มาตรา 12(11) ที่บัญญัติคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต้องไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่า กระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26
และมีมติเป็นเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ให้กำหนดคำบังคับให้คำวินิจฉัย มีผล เมื่อพ้น 365 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากศาลปกครองเพชรบุรี ส่งคำโต้แย้งของ น.ส.ภานุมาศ โวทวี ในคดีหมายเลขดำ ที่ 66/2566 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดประเด็นพิจารณา วินิจฉัย
ก่อนการวินิจฉัยคดี เนื่องด้วย นายสุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ร่วมเป็นองค์คณะพิจารณาคดี จึงไม่ต้องทำความเห็นส่วนตนเป็นหนังสือ และไม่ต้องร่วมทำคำวินิจฉัย
องค์คณะตุลาการของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้ จึงประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่น้อยกว่า 7 คน ตามพ.ร.ป.ด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 52 วรรคสอง