ก่อนหน้านี้กรมอุตุนิยมวิทยารายงานพยากรณ์อากาศระหว่างวันที่ 13-22 พ.ค. 2567 ระบุว่า ทั่วทุกภาคของไทยสภาพอากาศแปรปรวน มีฝน/ฝนฟ้าคะนองกระจายเพิ่มขึ้นนั้น มีรายงานความเสียหายในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ไม่เว้นแม้แต่อาคารรัฐสภาใหม่ของไทยที่มีมูลค่าก่อสร้างนับหมื่นล้านบาทก็ไม่อาจต้านทานได้
ล่าสุด นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการรัฐสภาว่า ระบบแอร์คอนดิชั่นฝั่งอาคารสภาผู้แทนราษฏรเสียทั้งระบบ ทำให้ภายในอาคารมีอากาศร้อนไม่คุ้มค่ากับงบประมาณการก่อสร้างอาคาร 12,280 ล้านบาท
ต่อมาช่วงบ่ายเกิดลมพายุพัดที่อาคารรัฐสภา ทำให้ประตูกระจกห้องประชุมชั้น 9 แตกหักพังลงกับพื้น สร้างความตระหนกตกใจให้กับข้าราชการเป็นอย่างยิ่ง และลมพายุยังได้พัดต้นไม้บริเวณหน้าสำนักการคลัง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรล้มลง และต้นไม้ใหญ่ฝั่งอาคารรัฐสภาก็ล้มลงด้วย พร้อม ๆ กับอายุของสมาชิกวุฒิสภาชุดที่คสช.แต่งตั้งก็ครบวาระด้วยเช่นกัน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภาว่า ในช่วงครึ่งวันเช้าอากาศร้อนค่อนข้างอบอ้าว เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเสียทั้งอาคาร ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสภารวมทั้งสื่อมวลชนต้องอาศัยพัดลมส่วนตัว ด้านแม่ค้าพ่อค้าภายในโรงอาหารต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้ร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปยังเจ้าที่ได้รับรายงานว่า เกิดความเสียหายที่อุปกรณ์ทำความเย็น (Chiller) ซึ่งเครื่องปรับอากาศอาคารรัฐสภาเป็นแบบแอร์รวม เมื่อเสียจะทำให้ใช้การไม่ได้เป็นวงกว้าง
ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. อากาศภายในห้องพักสื่อมวลชนเริ่มเย็นลง คาดว่าเนื่องจากมีการซ่อมแซมระบบให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว ขณะที่ช่วงบ่ายมีฝนตกลมแรงทำให้ต้นไม้ที่อยู่ฝั่งวุฒิสภา (สว.) ซึ่งถูกนำมาอนุบาลจนโตล้มลงจนรากต้นไม้หลุดออกมาจากดินที่เจ้าหน้าที่ปลูกไว้ กีดขวางทางเดินได้สร้างความฮือฮาให้กับเจ้าหน้าที่ แม่บ้าน และสื่อมวลชน จนแซวกันว่า สว.ชุดเก่าหมดวาระไปแล้ว ต้นไม้ล้มทันที