“วัชระ เพชรทอง”ยื่น อสส. ขอให้ยืนคำสั่งเดิมสั่งฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112

27 พ.ค. 2567 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2567 | 08:25 น.

“วัชระ เพชรทอง”ยื่นหนังสือถึง อสส.คนใหม่ ขออย่าเลื่อนการสั่งคดี ม.112 ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ออกไปอีก แนะยืนหลักการเดิมของอัยการสูงสุดคนก่อน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายอำนาจ  เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด(อสส.) เรื่อง ขอให้ยืนยันคำสั่งอัยการสูงสุด (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด) ฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร มีความผิดตามมาตรา 112 โดยมี นาย ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกอัยการสูงสุด รับหนังสือ

หนังสือร้องเรียนระบุว่า ด้วยข้าพเจ้า นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีอากรได้ติดตามคดีนายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่ประเทศเกาหลีใต้ อันเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตั้งแต่ต้น 

และต่อมา นายทักษิณ ขอความเป็นธรรม และอ้างพยานหลักฐานเพิ่มเติม ได้แก่ นายทหารระดับยศพลเอก และนักการเมืองหนุ่มนักเรียนนอก เลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไทย เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นพยานจัดตั้ง และมีผลประโยชน์ทางการเมืองทับซ้อนในปัจจุบันนั้น

อัยการสูงสุดต้องยืนหลักการเดิมของอัยการสูงสุด (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดในขณะนั้น) ที่มีคำสั่งฟ้องดำเนินคดีนายทักษิณ ชินวัตร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักนิติรัฐและนิติธรรม 

                                “วัชระ เพชรทอง”ยื่น อสส. ขอให้ยืนคำสั่งเดิมสั่งฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112

ทั้งนี้ขอให้พิจารณาพยานจัดตั้งของนายทักษิณ ทุกปาก และชั่งน้ำหนักพยานอย่างมีดุลยธรรม ก่อนจะสั่งคดีเพื่อความยุติธรรมต่อไปและอย่าใช้กระบวนการยุติธรรม ๒ มาตรฐาน ดังเช่นความเห็นของ นายถาวร เสนเนียม อดีตอัยการ ซึ่งนายทักษิณ สร้างความเสียหายกับประเทศชาติ มากกว่า 1.3 แสนล้านบาท 

อนึ่งก่อนหน้านี้ อัยการสูงสุด ได้สั่งไม่ฟ้องคนในตระกูลนี้หลายคดีเป็นที่ครหาของสังคมในการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุดเรื่อยมาว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ มีใบสั่งทางการเมืองหรือไม่ เช่น อัยการสั่งไม่ฟ้อง “แม้วและพวก” ซุกหุ้นเอสซี แอสเสท, อัยการไม่ฎีกาคดี “พจมาน-บรรณพจน์” เลี่ยงภาษีชินฯ  

ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสงสัยในการสั่งคดีเป็นอย่างยิ่งและอดีตอัยการสูงสุดคนหนึ่งคือ นายชัยเกษม นิติสิริ ไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประชาชนก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก ดังนั้นคดีนี้จึงต้องรอบคอบถ่องแท้ อย่าเลื่อนการสั่งคดีออกไปอีก และให้โลกร่ำลือในวีรกรรมการสั่งคดีเพื่อประเทศชาติในครั้งนี้