วงการวิชาการไทยต้องสูญเสียบุคคลสำคัญอีกครั้ง เมื่อ ศาสตราจารย์ ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิด้านรัฐศาสตร์ ได้จากไปอย่างสงบในวัย 69 ปี เมื่อเวลา 10.45 น. ของวันที่ 27 มิถุนายน 2567
ศ.ดร.ชัยวัฒน์ เป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าสาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้สร้างผลงานโดดเด่นจนได้รับการยกย่องให้เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ในปี 2549 และได้รับรางวัลศรีบูรพาในปี 2555
นอกจากบทบาทในแวดวงวิชาการ ศ.ดร.ชัยวัฒน์ยังมีส่วนสำคัญในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยร่วมเป็นกรรมการภาคประชาสังคมนอกพื้นที่ในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.)
อาจารย์ชัยวัฒน์ ยังมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่องค์ความรู้สู่สาธารณะ ผ่านการเป็นกรรมการและคณะทำงานฝ่ายจัดการ/บรรณาธิการของโครงการจัดพิมพ์คบไฟ มูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาธิปไตยและการพัฒนา ซึ่งได้ตีพิมพ์ผลงานวิชาการทั้งของไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
การจากไปของ ศ.ดร.ชัยวัฒน์ ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการวิชาการและสังคมไทย ทั้งนี้ "กองบรรณาธิการฐานเศรษฐกิจ" ขอแสดงความเสียใจและแสดงความอาลัย
สำหรับผู้ที่ต้องการร่วมไว้อาลัยสามารถเคารพศพได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่มัสยิดฮารูน บางรัก โดยจะมีพิธีศพอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป
อาจารย์ชัยวัฒน์ เป็นนักวิชาการและนักเขียนชาวไทยที่มีผลงานที่โดดเด่นหลายด้าน โดยเฉพาะในสาขาปรัชญา การเมือง และสันติภาพ นี่คือบางส่วนของผลงานที่สำคัญที่ฐานเศรษฐกิจรวบรวมข้อมูล
งานเขียนและวิจัยเกี่ยวกับสันติภาพ:
หนังสือและบทความ:
การศึกษาและการสอน:
รางวัลและเกียรติยศ:
งานวิจัยเกี่ยวกับการเมืองไทย:
หนังสือ "คิด เถียง เรียนรู้ สู่สันติวิธี" ของ ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ เป็นหนังสือที่สำคัญและมีผลกระทบต่อการศึกษาและการทำงานในเรื่องสันติวิธีในสังคมไทย หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นที่การวิเคราะห์แนวคิดและกระบวนการในการสร้างสันติภาพและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืน นี่คือสาระสำคัญจากหนังสือเล่มนี้:
การคิดเชิงวิพากษ์:
การเถียงอย่างสร้างสรรค์:
การเรียนรู้ร่วมกัน:
สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง:
กรณีศึกษาและตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม:
"คิด เถียง เรียนรู้ สู่สันติวิธี" จึงเป็นหนังสือที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ การเถียงอย่างสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและสันติสุข