กกต.เร่งสอบสอย“หมอเกศ”ปมใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวงให้เลือกเป็น สว.หรือไม่

17 ก.ค. 2567 | 07:25 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ค. 2567 | 07:35 น.

กกต.เร่งสอบ "หมอเกศกมล เปลี่ยนสมัย" ปมใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวงให้เลือกเป็น สว. หรือไ่ม่ หลังรับ 2 คำร้องไว้เป็นสำนวน ชี้หากผิดจริงเจอโทษจำคุก 1-10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

วันนี้(17 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาวุฒิการศึกษาของ น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือ "หมอเกศ" สว. กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) ในส่วนของ กกต. ขณะนี้พบว่า มีการรับ 2 คำร้อง ที่ขอให้กกต.ตรวจสอบว่า 

การที่ น.ส.เกศกมล ระบุประวัติการศึกษาว่า เป็นศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกจากCalifornia University ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3) เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอกลวง จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ เพื่อให้ผู้สมัครหรือ ผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ตน ตามมาตรา77(4) พ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 หรือไม่

เป็นสำนวนเพื่อดำเนินการตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2566  โดยเลขาธิการฯ กกต.มีคำสั่งรับเป็นสำนวน เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567  และอีกคำร้อง กกต. มีมติสั่งรับเป็นสำนวน เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2567 

ส่วนที่กกต.ประกาศรับรอง น.ส.เกศกมล ให้เป็น สว. เมื่อวันที่ 10ก.ค. ทั้งที่รับ 2 คำร้องดังกล่าวเป็นสำนวนแล้ว แหล่งข่าวระบุว่า เนื่องจากตามกฎหมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร สว. ว่าต้องมีวุฒิการศึกษาระดับใด น.ส.เกศกมล จึงไม่มีประเด็นที่ถูกร้องเรื่องขาดคุณสมบัติ 

แต่เป็นการกล่าวหาว่า ข้อมูลประวัติการศึกษาในใบ สว.3 เป็นการหลอกลวงให้ลงคะแนนเลือก ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ หาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ โดยต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

รวมถึงต้องให้ความธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาตามที่ระเบียบ กกต.กำหนด กกต.จึงประกาศรับรอง น.ส.เกศกมล ไปก่อน และขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนไต่สวนตามคำร้อง

ทั้งนี้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 มาตรา77  กำหนดไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (4) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่น เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือ ชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด

เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือก เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ ถอนการสมัคร หรือ กระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือก หรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร หรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนน หรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี  หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี