“อานนท์ นำภา”ซีดเจอคุกอีก 4 ปี คดี ม.112 รวมโทษ 4 คดี 14 ปี 20 วัน นอนคุกยาว

25 ก.ค. 2567 | 09:43 น.
อัพเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2567 | 09:54 น.

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “อานนท์ นำภา” อดีตแกนนำกลุ่มราษฎร อีก 4 ปี คดี ม.112 โพสต์หมิ่นสถาบัน เผยเจอแล้ว 4 คดี รวมโทษ 14 ปี 20 วัน นอนคุกยาว

วันนี้ (25 ก.ค. 67) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.735/2564 อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา อดีตแกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง โดยจำเลยถูกขังและให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

คดีดังกล่าวอัยการฟ้องว่า จำเลยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย "เฟซบุ๊ก" ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เขียนข้อความลงในระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อความเท็จ มีเจตนาให้ผู้พบเห็นหลงเชื่อ

 

โดยในวันที่ 11 ม.ค. 2564 จำเลยโพสต์ข้อความทำนองว่า การที่สถาบันฯ ลงมาบริหารประเทศด้วยตนเอง ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย และเมื่อคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาพูดก็โดนมาตรา 112 และข้อความอื่น ๆ ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงแล้วสถาบันกษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะล่วงละเมิดไม่ได้ อันเป็นความผิดต่อความมั่นคงและฝ่าฝืนกฎหมาย

วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัว นายอานนท์ จำเลย ในชุดนักโทษสีน้ำตาล ตัดผมสั้นเกรียน มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อฟังคำพิพากษา โดยมี นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มเพื่อน บุคคลใกล้ชิด ภรรยา และ บุตรสาว ประมาณ 50 คน มาติดตามและให้กำลังใจ 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ จำคุก 2 กระทง กระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี 

แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 4 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.2495/2564 ของศาลอาญา หมายเลขดำ อ.2804/2564 ของศาลอาญา และหมายเลขดำ อ.1676/2564 ของศาลอาญากรุงเทพใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานนท์ จำเลยคดีมาตรา 112 อยู่ในเรือนจำมาแล้ว 2 ปีเศษ จากคำพิพากษาของศาลใน 3 คดี รวม 10 ปี 20 วัน 
ดังนั้น เมื่อนับรวมกับคดีนี้ ที่เป็นคดีล่าสุดที่พิพากษาจำคุก 4 ปี นายอานนท์ จะต้องรับโทษทั้งสิ้น 14 ปี 20 วัน และจะยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเหมือนเดิม