ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ส.ส.พรรค โพสต์ต่อว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวินิจ สมาชิกพรรค พปชร.ที่ออกมาเปิดเพลง “เชียร์ลุงป้อม” และแสดงความคิดเห็นต่อว่า นายกฯและรัฐบาลหลายครั้ง จะต้องพูดคุยเรื่องนี้กับเจ้าตัวหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของส.ส.ที่อยู่หน้างาน เป็นเรื่องปกติการเมือง
“อะไรก็ตามที่ไม่ตรงกับทัศนคติหรืออุดมการณ์ที่เราเคยหาเสียงไว้ตั้งแต่ปี 2566 ทุกคนก็ไม่สบายใจ เป็นเพียงความเห็นของกลุ่มส.ส.ไม่มีประเด็นความแตกแยกอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในการร่วมร่างนโยบายของพรรค ไม่ควรที่จะยุ่งและนำทิศทางพรรคในทางที่เสียหาย หรืออะไรต่างๆ ทุกอย่างต้องผ่านคณะกรรมการบริหารพรรค ถือว่าพรรคของเราคือสถาบันการเมือง”
ส่วนที่เนื้อหาในแชทไลน์ที่หลุดออกมา ค่อนข้างที่จะรุนแรงแรงถึงความไม่พอใจของส.สในพรรคเป็นอย่างมากนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าก็เป็นอย่างนั้น พร้อมปฏิเสธว่าทำไมต้องไปคุยกับ นายสามารถ เขาเป็นใคร
ทั้งนี้ในการประชุมพรรคและเห็นว่า ส.ส.บางคนอาจจะขอนำประเด็นนี้มาถกเถียงกัน แต่ตน และ นายอรรถกรศิริ ศิริลัทยากร รมช.เกษตรฯ อาจจะไม่ได้เข้าร่วมเพราะติดประชุมในช่วงบ่ายต่อ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ต้องย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2562 ว่านโยบายของพรรคพลังประชารัฐมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การเปลี่ยนสปก 4-01 ให้เป็นโฉนด ล้วนเป็นนโยบายของพรรคมาถึงวันนี้
“พรรคเรายังมีจุดยืนที่ชัดเจน เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของพรรคใด เพราะฉะนั้นผมในฐานะเลขาพรรค และ อรรถกร ในฐานะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. เป็นกรรมการบริหารพรรคก็ไม่สบายใจ จะมีการหยิบยกเรื่องนี้เข้ามาพูดคุยกันในไลน์ ก็เท่านั้นเอง”
เมื่อถามว่าหากเจ้าตัวยังไม่ยอมหยุดแสดงความคิดเห็นและทำให้พรรค ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเกิดผลกระทบจะมีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็ต้องคุยกันระหว่างกรรมการบริหารพรรค
ส่วนที่วันนี้นายสามารถ ยังมีการโพสต์ระบุจะมีการเปิดตัวส.ส. ด้วยนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะเปิดไปเพื่ออะไร การเลือกตั้งอีกตั้งกี่ปีเปิดไปเพื่ออะไร
“ตอนนี้ต้องทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชน เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหน้าที่ของรัฐมนตรีที่ร่วมรัฐบาลในแต่ละกระทรวง ควรแสดงบทบาทว่าเป็นผลงานของพรรคในเรื่องใดบ้าง ที่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมือง และ ประชาชน ไม่ใช่พูดไปเรื่อย ทำไปเรื่อยไม่มีกลไก ไม่มีทิศทาง และคณะกรรมการนโยบายของพรรคก็ไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน”
ทั้งนี้ในฐานะเลขาพรรคจะต้องกำราบหรือห้ามปรามนายสามารถอย่างไร เพราะดูไม่ค่อยสอดคล้องกับนโยบายพรรคนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคเราเป็นพรรคการเมือง เป็นสถาบันการเมือง จะทำอะไรก็ต้องมาจากกรรมการบริหารพรรคไม่งั้นก็อยู่กันไม่ได้
ส่วนการพานายวัน อยู่บำรุง เข้ามาร่วมพรรคนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องบุคคลนั้น เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคตัดสินใจ ไม่ใช่ประเด็น
“แต่อะไรก็ตามที่คุณไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคออกมาแสดงวิสัยทัศน์ต่างๆ ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า มาในนามพรรค ทำไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้น หากคุณทำอะไรผิด พรรคต้องรับผิดชอบการถูกยุบพรรคต้องระวัง”
ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ได้โทรคุยเรียนกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้วว่า อาจจะต้องปรามด้วยในเรื่องพวกนี้
พร้อมยืนยันว่า เลขาธิการพรรคและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเดินในทิศทางเดียวกัน ในพรรคไม่มีความแตกแยก กรรมการบริหารพรรคทุกท่านไม่มีแตกแยกมีแต่คนภายนอกที่เข้ามาแส่
ส่วนที่ตอนนี้ดูเหมือนมีความพยายามทำให้หัวหน้าพรรคและเลขาพรรคมีความคิดไม่ตรงกันนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า "ไม่หรอกครับ ผมคุยกันทุกวัน"
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า ผู้ที่จะให้ทิศทางของพรรคต้องมาจากกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นถ้ายังไม่จบ ไม่หยุดแค่นี้กรรมการบริหารพรรคก็ต้องขับไล่ออกไป เหมือนที่เคยขับไล่ออกไปรอบหนึ่ง
“ยืนยันว่าการร่วมรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐต้องอยู่ร่วมกันทั้งพรรคจะไปแยกกันได้อย่างไร อย่าไปตีความเป็นอย่างอื่นคนๆ เดียวที่ไม่ใช่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารพรรค มาแสดงวิสัยทัศน์มาแสดงความคิดมันไม่ใช่การตัดสินใจของพรรค เรามีจุดเด่นชัดเจนคุณเคยทำผิดมติพรรคก็ขับไล่ไปครั้งหนึ่งแล้ว กลับเข้ามาใหม่ยังสร้างปัญหาไม่ได้เด็ดขาด หากยังคงทำเหมือนเดิมต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดทันทีต้องคุยกันในกรรมการบริหารพรรคในบ่ายวันนี้”
ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่มีการแตกแยกส.สเราทั้งหมด 40 ท่านไปในทิศทางเดียวกัน อย่าเอาไปเป็นประเด็น
ร.อ.ธรรมนัส ตอบทิ้งท้ายว่า "ผมไม่ได้ชอบเพลงนี้ (เชียร์ลุงป้อม) ที่ นายสามารถ ปล่อยออกมา แต่ชอบเพลง "เชื่อฉัน"