พักผ่อนวันหยุดชิวๆ ของ “ทักษิณ” กับนัยยะทางการเมือง

เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เห็นปรากฏการณ์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยกครอบครัว "ชินวัตร" ไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มองกันถึงการขยับขับเคลื่อนทัพ เตรียมปูทางก่อนจะพ้นกำหนดการพักโทษ 20 ส.ค. 2567 

ว่ากันว่าเป็นการพบปะพูดคุยสังสรรค์กันของกลุ่มคนที่รัก และศรัทธา ทักษิณ มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะอดีตลูกน้องเก่า 

เมื่อทราบว่า ทักษิณ ยกครอบครัวไปพักผ่อนที่ เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นกิจการของ "พินทองทา คุณากรวงศ์" บุตรสาวคนกลาง นายทักษิณ มีการเชื้อเชิญให้แวะไปที่ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ เขาใหญ่ อาณาจักรครอบครัว "ชาญวีรกูล"

ไม่เพียงแต่ ทักษิณ และ ครอบครัว เท่านั้น ยังมีเหล่าบ้านใหญ่ตระกูลดังในโคราช ทายาทการเมือง นำโดย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พชร จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา บุตรชายของ นายประเสริฐ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล  รมว.วัฒนธรรม สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำด้วย 

และถือเป็นครั้งแรกในการเดินทางไปพักผ่อนของ ทักษิณ รวมทั้งปรากฏภาพถ่ายสำคัญ ในเช้าวันที่ 20 ก.ค. 2567 ที่ ทักษิณ ออกรอบตีกอล์ฟกับ อนุทิน และ มี สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) ร่วมด้วย 

การเดินทางไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ของ ทักษิณ และ ครอบครัว การไปออกรอบตีกอล์ฟ สะท้อนนัยยะหลายมิติในทางการเมือง 

นัยยะแรก สะท้อนเครือข่ายของกลุ่มคนที่มีพลัง มีอำนาจในการบริหารการเมือง และเครือข่ายธุรกิจการเมือง

นัยยะที่สอง สะท้อนออกมาในเชิงการบริหารการเมือง และ การบริหารเชิงอำนาจ 

นัยยะที่สาม “เพื่อไทย” ผนึก “ภูมิใจไทย” แน่นปึ้ก

ใครที่ประเมินว่า นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะหลุดจากตำแหน่งทางการเมือง แล้ว อนุทิน จะหันไปจับมือกับพรรคก้าวไกล แล้วให้ อนุทิน เป็นนายกฯ ผลัก “เพื่อไทย” ออกไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะคุมทั้งสภาสูง และ เป็นตัวแปรในสภาล่าง ต้องทบทวนใหม่

นัยยะที่สี่ ทักษิณ-อนุทิน จะเป็นกลุ่มผู้บริหารอำนาจทางการเมืองเต็มร้อย 

ส่วนจะเป็นลมใต้ปีกเพื่อสนับสนุนให้ นายกฯ เศรษฐา บริหารบ้านเมืองแบบซีอีโอบริหาร และ เป็นคนทำงาน โดยมีประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการ คอยกำกับ หรือไม่ ต้องรอลุ้นกันหลังเดือนสิงหาคมนี้ 

การขยับปรับเคลื่อนทัพของ ทักษิณ จากการไปพักผ่อนที่โคราช จะเห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งการปรับนิเวศน์ทางการเมือง นับจากนี้ สอดรับกับงบประมาณ ที่จะมีการใช้จ่ายได้ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย 2567 ดังเครื่องยนต์สตาร์ทติด งานตามนโยบายของรัฐบาล จะเป็นรูปธรรมากขึ้น 

การใช้ประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมือง บริหารอำนาจของ ทักษิณ ควบคู่กับการบริหารงานของ "นายกฯ ซีอีโอ" เพื่อสร้างผลงานใน 3 ปีที่เหลือ “กอบกู้เศรษฐกิจ” ให้พ้นวิกฤต โดยมีเป้าหมายชัดในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อให้ได้ ส.ส. อันดับหนึ่ง 270-300 เสียง ในการตั้งรัฐบาลใหม่ 

โดยรัฐบาลใหม่ จะยังอยู่ในมือ “เพื่อไทย+ภูมิใจไทย”

ส่วน 4 ปีหลัง “อนุทิน” จะไปถึงดวงดาว ในตำแหน่ง “นายกฯ คนที่ 31” หรือไม่ การเมืองต้องติดตามดูกันยาวๆ 

เพราะในทางการเมืองแล้ว อะไรๆ ที่ไม่คาดคิด ก็เกิดขึ้นได้เสมอ...

อนาคตจะเป็นเครื่องพิสูจน์!!!