วันที่ 4 กันยายน 2567 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งรัฐมนตรี รวมจำนวน 35 ราย
โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีรัฐมนตรี 4 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวชาบีดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่มี “สุภาพสตรี” ถึง 2 คน พร้อมกัน ที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงนี้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทย เคยมี “สุภาพสตรี” เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มาแล้ว 1 คน คือ คุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ดำรงตำแหน่งรมช.กระทรวงนี้ 2 ครั้ง คือ ระหว่าง 18 ก.ค. 2538 - 24 พ.ย. 2539 และ 28 พ.ค. 2539 -14 ส.ค. 2539
ประวัติ“ซาบีดา ไทยเศรษฐ์”
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ได้เข้ามาเป็น รมช.มหาดไทย (มท.3)หลังจากผู้เป็นพ่อ คือ ชาดา ไทยเศรษฐ์ จากพรรคภูมิใจไทย ต้องถอนตัวจากตำแหน่งดังกล่าว ในรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ มีชื่อเล่นว่า “ดีดา” เป็นบุตรสาวคนกลางของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ กับ นางเตือนจิตรา แสงไกร อดีตนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี
ซาบีดา เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2527 ปัจจุบันอายุ 39 ปี 11 เดือน
เธอมีพี่น้องรวม 3 คน ได้แก่ ปานัดฌา ไทยเศรษฐ์ (พี่สาวคนโต) และอัลฑริกา ไทยเศรษฐ์ (น้องสาวคนเล็ก) ทั้งสามพี่น้องต่างร่วมกันขับเคลื่อนมูลนิธิไทยเศรษฐ์ ซึ่งมีภารกิจหลักในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ประสบภัยพิบัติ และสนับสนุนด้านการศึกษา
ด้านการศึกษา ดีดา-ซาบีดา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ ปริญญาโทนิติศาสตร์บัณฑิตจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
สมรสกับนายชาเดฟ-อนันต์ ปาทาน เมื่อต้นปี 2565 ปัจจุบันยังไม่มีบุตร
ในช่วงที่ผ่านมา ดีดา-ซาบีดา มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลืองานทางการเมืองของบิดา โดยเฉพาะในการหาเสียงเลือกตั้ง
นอกจากนี้ เธอยังเคยดำรงตำแหน่ง คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในช่วงที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ของดีดา-ซาบีดา ถือเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมืองจากบิดา และเป็นโอกาสสำคัญในการพิสูจน์ความสามารถของคนรุ่นใหม่ในวงการการเมืองไทย
เส้นทาง“ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์”
อีกคนที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย (มท.4) คือ ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ สส.กทม. เขตลาดกระบัง ซึ่งเป็น สส.คนเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับเลือกตั้งสนาม กทม. ครั้งที่ผ่านมา
"อิ่ม-ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์" เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2522 ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นบุตรสาว ของ นายวิบูล สำเร็จวาณิชย์ อดีตส.ก. เขตลาดกระบัง (ปี 2518) พี่ชาย นายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ อดีต ส.ก.เขตลาดกระบัง ปี 2554
"อิ่ม ธีรรัตน์" สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโท และ ปริญญาเอก จากประเทศออสเตรเลีย
ก่อนเข้าสู่แวดวงการเมือง เธอเคยทำงานอยู่แผนกพัฒนาบุคลากร ฝ่ายยุทธศาสตร์การจัดการเรียนรู้แก่ผู้บริหารระดับสูง ธนาคารกสิกรไทย
เริ่มทำงานในฐานะ สส.ในปี 2554 สังกัดพรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 20 (เขตลาดกระบัง) ซึ่งเป็นฐานเสียงของครอบครัว โดยเอาชนะ นางสลวยเลิศ กิมสูนจันทร์ ภรรยา นายมงคล กิมสูนจันทร์ อดีต สส. จากพรรคประชาธิปัตย์ได้
ต่อมาในปี 2562 อิ่ม ได้รับการเลือกตั้งเป็น สส.กทม. สมัยที่สอง ใต้ชายคาเพื่อไทยเช่นเดิม
และการเลือกตั้งล่าสุด 14 พ.ค. 2566 เธอก็ยังได้รับความไว้วางใจจากชาวลาดกระบัง เลือกให้เป็น สส.อีกสมัย และเป็นคนเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่สามารถฝ่าดัง “ส้ม” ฉิวเฉียด เข้ามาเป็น สส.ได้
โดยเธอเอาชนะพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนเสียง 34,749 คะแนน มากกว่า ชุมพล หลักคำ ผู้สมัครจากก้าวไกล ที่ได้คะแนนเสียง 34,745 เพียง 4 คะแนนเท่านั้น
"อิ่ม-ธีรรัตน์" เป็นหนึ่งในสองของ สส.หญิงพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับความนิยมอยากมากในกลุ่มเยาวชน และโลกโซเชียลร่วมกับ สส.นํ้า-จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ถึงกับถูกขนานนามว่าเป็นคู่จิ้นที่ได้ชื่อว่า "คูมธีคูมจิ"
"อิ่ม ธีรรัตน์" จัดอยู่ในกลุ่มนักการเมืองหญิงแถวหน้าคนหนึ่งของเพื่อไทย มีช่วงหนึ่งที่ชาวนาเขตลาดกระบังเดือดร้อนหนักจากราคาข้าวตกต่ำ "สส.อิ่ม" จึงหาลู่ทางขายข้าวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และไม่ประมาท ขยันพื้นที่ต่อเนื่อง
ทั้ง “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์” และ “ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์” 2 รมช.มหาดไทย ต้องทำงานประสานกับบรรดาข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ส่วนใหญ่จบการศึกษาทั้งจาก รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สิงห์ดำ) , รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (สิงห์แดง), รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สิงห์ขาว) , รัฐศาสตร์ มหาวิทยารามคำแหง (สิงห์ทอง)
มารอดูฝีมือและผลงานของเธอทั้ง 2 ในกระทรวงมหาดไทยกัน...