วันที่ 23 มกราคม 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงนามหนังสือส่งถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคการเมือง เรื่อง การเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป
เนื่องจากอายุสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ หรือ กรณีมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรต้องจัดให้มีการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ
โดยสำนักงาน กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ขอให้พรรคการเมืองที่ประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งดำเนินการ ดังนี้
1. ให้พรรคการเมืองบันทึกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองและระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองให้เป็นปัจจุบันเพื่อใช้ในการตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองในการดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรค การแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด การประชุมใหญ่พรรคการเมือง รวมทั้งหลักฐานไว้ใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยจะถือว่าข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองของสำนักงานกกต. เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
2.จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด กรณีพรรคการเมืองใดยังไม่ได้จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดใด ให้พรรคการเมือง เร่งดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในแต่ละจังหวัด เพื่อดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.
3.จัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง กรณีพรรคการเมืองใดยังไม่ได้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือมีไม่ครบตามกฏหมายและข้อบังคับพรรคการเมือง ให้เร่งดำเนินการจัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองให้ครบ โดยต้องกระทำในที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองและให้ลงคะแนนลับ โดยมีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. และหน้าที่อื่นตามที่กำหนดไว้ในพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
4.การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคการเมือง กรณีพรรคการเมืองใดยังมีกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ครบตามกฏหมายและข้อบังคับพรรคการเมือง ให้เร่งดำเนินการจัดให้มีกรรมการบริหารพรรคให้ครบ โดยต้องกระทำในที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองและให้ลงคะแนนลับ โดยมีหน้าที่และอำนาจตามที่กำหนดในพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
ทั้งนี้ เมื่อร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีผลใช้บังคับสำนักงานจะแจ้งให้ทราบโดยเร็วต่อไป