วันที่ 18 ธันวาคม 2566 เวลา 14.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประกันสังคมมาตรา 40 สู่เครือข่ายประกันสังคม รุ่นที่ 6 ณ โรงแรมมีพรสวรรค์ แกรนด์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดพิจิตร โดยมี นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงแรงงาน เครือข่ายประกันสังคม และผู้ประกันตนในพื้นที่ ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า มีโอกาสลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร เป็นประธานเปิดโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประกันสังคมมาตรา 40 สู่เครือข่ายประกันสังคม รุ่นที่ 6 ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องให้อีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ สำหรับการดูแลมอบหลักประกันคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับแรงงานอาชีพอิสระ โดยจังหวัดพิจิตรมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างรายได้ให้แรงงานระดับภูมิภาคและภาพรวมเศรษฐกิจ ระดับจังหวัด โดยแรงงานภาคอิสระ ในจังหวัดพิจิตรมีผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทั้งสิ้น 52,136 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร เช่น การปลูกข้าว การปลูกมันสำปะหลัง การปลูกอ้อย รวมถึงกลุ่มอาชีพค้าขาย และกลุ่มอาชีพอิสระรับจ้างทั่วไป ทั้งนี้ ประกันสังคมมาตรา 40 ดูแลผู้ประกอบอาชีพอิสระ มอบสิทธิประโยชน์คุ้มครองสูงสุดถึง 5 กรณี ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองกรณีเงินทดแทนการขาดรายได้จากการเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร ทำให้แรงงานมีหลักประกันในการใช้ชีวิต สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงแรงงาน “สร้างรากฐานเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพด้วยการคุ้มครองแรงงาน”
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวเสริมว่า การจัดโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประกันสังคมมาตรา 40 สู่เครือข่ายประกันสังคม จ.พิจิตร ภายในงานยังมีกิจกรรมสร้างแรงจูงใจจากเครือข่ายประกันสังคมและการส่งเสริมอาชีพอิสระมากมาย อาทิ การรับสมัครผู้ประกันตน การออกร้านจากกลุ่มภาคีเครือข่าย การจัดนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน การให้บริการตรวจคัดกรอง เพื่อนัดหมายฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ฟรี รวมถึงยังมีการมอบเกียรติบัตรให้แก่เครือข่ายที่สนับสนุนงานประกันสังคมดีเด่น อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 6 รุ่น ล้วนได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดี จากพี่น้องประชาชนผู้ประกอบอาชีพอิสระ แสดงให้เห็นว่าพี่น้องกลุ่มแรงงานนอกระบบให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันทางสังคม รวมถึงมีความต้องการสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจได้ว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลผู้ประกอบอาชีพอิสระทุกกลุ่ม ให้มีหลักประกันทางสังคมที่มั่นคงตลอดไป