“สยามพิวรรธน์” เดินหน้าแนวทางการบริหารจัดการขยะแบบ 360 องศา ขับเคลื่อนสู่องค์กรขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) เปิดตัวน้ำดื่มรักษ์โลก “ONESIAM” ในบรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียม สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 100% ด้วยกระบวนการรีไซเคิลสะท้อนความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนสู่องค์กรขยะเป็นศูนย์ หรือ Zero Waste สร้างผลกระทบเชิงบวก (Net Positive Impact) และเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050
นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกสู่ความยั่งยืน สยามพิวรรธน์จึงเปิดศักราชปี 2567 ด้วยการเปิดตัว “ONESIAM Drinking Water” อีกหนึ่งโครงการที่ทำขึ้นภายใต้นโยบายบริหารจัดการขยะแบบ 360 องศาอย่างครบวงจร มุ่งสู่เป้าหมายการขับเคลื่อนสู่องค์กรขยะเป็นศูนย์ หรือ Zero Waste ด้วยการรังสรรค์น้ำดื่มในบรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียมที่ดีไซน์ลวดลายบนกระป๋องแบบพิเศษ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ด้วยการรีไซเคิลได้อย่างไม่รู้จบ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่จากการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน ลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตวัตถุดิบอะลูมิเนียมได้ถึง 95% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งการรีไซเคิลอะลูมิเนียม 1 กิโลกรัม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 9.13 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) อีกทั้งตัวกระป๋องสามารถบีบอัดง่าย ทำให้ช่วยลดพื้นที่จัดเก็บเพื่อเตรียมนำกลับไปรีไซเคิล
สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เป็นเจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก กลุ่มวันสยาม (ONESIAM) ซึ่งเป็นการผนึกกำลังของ 3 ศูนย์การค้าชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ ได้แก่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ
“น้ำดื่ม ONESIAM ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของสยามพิวรรธน์ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดปริมาณการฝังกลบขยะจากการดำเนินงาน 50% ภายในปี 2030 และเดินหน้าสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี 2050 ซึ่งการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มเป็นอะลูมิเนียมนี้ จะเพิ่มศักยภาพในการนำขยะกระป๋องไปรีไซเคิล ช่วยลดการจัดการขยะแบบฝังกลบอย่างเป็นระบบ ช่วยประหยัดพลังงานและทรัพยากรในการผลิตใหม่”
กระป๋องน้ำดื่ม ONESIAM Drinking Water ออกแบบโดยคุณสมชนะ กังวารจิตต์ Executive Creative Director ของ Prompt Design นักออกแบบผู้คว้ารางวัลออกแบบระดับโลกกว่า 200 รางวัล โดยนำแนวคิดที่สะท้อนตัวตนของ ONESIAM ที่เปรียบเสมือน Single Planet นำเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในด้านความมั่นใจ ความกระตือรือร้น และความอัศจรรย์ ผสมผสานกับลายเส้นที่หลากหลายให้ความรู้สึกสนุกสนาน เกิดพลังงานในการสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการพิมพ์แบบเปิดให้เห็นสีเนื้อกระป๋อง เพิ่มลูกเล่นความโดดเด่นคล้ายการปั๊มนูน และสร้างความแตกต่างให้ผู้พบเห็นสนุกไปกับงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว
ขณะที่ “น้ำดื่ม ONESIAM” ผลิตโดย Greenery Water ผู้ผลิตน้ำดื่มกระป๋องอะลูมิเนียมแบรนด์แรกของไทย ที่มีเป้าหมายในการลดขยะจากขวดน้ำดื่มพลาสติกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมากถึง 6,000 ล้านขวดต่อปี โดยใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิลไม่ต่ำกว่า 70% ในการผลิต สามารถหมุนเวียนใช้ทรัพยากรอย่างไม่รู้จบ ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดของเสียตกค้างในระบบนิเวศ จากการนำบรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียมใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นกระป๋องใบใหม่อีกครั้ง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ 100%
“สยามพิวรรธน์ เดินหน้านโยบายบริหารจัดการขยะแบบ 360 องศา ตั้งแต่ปี 2564 โดยเริ่มต้นจากพนักงานในองค์กร ก่อนขยายมายังร้านค้าพันธมิตร และขยายสู่ชุมชนบริเวณรอบศูนย์การค้าวันสยาม จนถึงปัจจุบันพบว่า สามารถบริหารจัดการขยะ ลดขยะจากการฝังกลบได้จำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ซึ่งน้ำดื่ม ONESIAM จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากขวดพลาสติก และบรรจุภัณฑ์กระป๋องอลูมิเนียมยังสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้แบบ 100% ทำให้ไม่เกิดขยะอีกด้วย”
ทั้งนี้อยากเชิญชวนให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูและส่งต่อโลกที่น่าอยู่สำหรับทุกคน โดยนำกระป๋องอะลูมิเนียมที่ใช้แล้วมาทิ้งที่เครื่องอัดกระป๋องที่ตั้งในศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ หรือนำกระป๋องมาคัดแยกแล้วนำมาฝากที่ Recycle Collection Center หรือ RCC จุดรับวัสดุบรรจุภัณฑ์สะอาดแบบไดร์ฟทรู (Drive-Thru) ที่บริเวณจุดจอดรถทัวร์ ชั้น G ฝั่ง North และบริเวณทางออก 4 ชั้น G (ฝั่งธนาคารกรุงเทพ) สยามพารากอน และจะเริ่มดำเนินการที่ไอคอนสยาม ในต้นปี 2567 ด้วย
สำหรับน้ำดื่ม ONESIAM Drinking Water เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ร้าน Loft ชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่ และชั้น 3 ไอคอนสยาม, Grab & Go ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ และผ่าน ONESIAM SuperApp รวมทั้งยังมีแผนวางขายผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending machine) ในสยามพารากอน และ สยามเซ็นเตอร์ ในต้นปี 2567 เป็นต้นไป