พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ตลาดอสังหาฯในพัทยาและหัวหิน เติบโตรับอานิสงส์เมกะโปรเจ็กต์คมนาคม กระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อเพื่อการลงทุน
[caption id="attachment_232231" align="aligncenter" width="503"]
อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด[/caption]
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เผยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาและหัวหินเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยในส่วนพัทยาปี 2560 อุปทานเสนอขายคอนโดมิเนียมมี 55,641 หน่วย ได้รับการตอบรับแล้วสูงถึง 85% เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จึงมีจำนวนหน่วยคงค้าง 8,496 หน่วย และคาดจะขายหมดใน 15 เดือน โดยราคาเฉลี่ยที่เสนอขายในทุกโซนพัทยา 9.5 หมื่น-1 แสนบาทต่อตร.ม. และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่าราคาเสนอขายเติบโตสูงถึง 28% ซึ่งคาดว่าหากมีโครงการใหม่ราคาจะเติบโตไปได้ถึง 1- 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. ด้านอุปสงค์ สำหรับโครงการที่มีราคาเสนอขายมากกว่า 1.2 แสนบาทต่อตร.ม. มีอุปสงค์ขยายตัวสูงขึ้นทุกปี จากปี 2556-2560 สูงขึ้นถึง 159%
ขณะที่ตลาดทำเลหัวหินล่าสุดพบว่า อุปทานเสนอขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหินและชะอำอยู่ที่ 11,641 หน่วย มียอดตอบรับแล้ว 78% โดยในพื้นที่หัวหิน ราคาเสนอขายเฉลี่ยประมาณ 9 หมื่นบาทต่อตร.ม. แต่หากเป็นโซนใกล้ทะเล ราคาเสนอขายจะอยู่ในช่วง 9.1-9.6 หมื่นบาทต่อตร.ม. โดยราคาเสนอขายโครงการสูงถึง 1.4 แสนบาทต่อตร.ม. ในโครงการเลียบชายหาด
สำหรับพื้นที่ศักยภาพอย่างโซนตัวเมืองหัวหินและโซนใกล้ทะเล รวมถึงโซนเขาตะเกียบ ปัจจุบันพบอุปทานอยู่ที่ 4,274 ยูนิต มียอดตอบรับแล้ว 77% ทำให้ปัจจุบันเหลือยูนิตคงค้างเพียง 967 ยูนิตเท่านั้น โดยราคาเฉลี่ยของโซนนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 15% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“การลงทุนในอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ในพัทยาและหัวหินนับว่ามีแนวโน้มดีและน่าจับตามองมากขึ้น เพราะเป็นทำเลที่มีโอกาสเติบโตอย่างน่าสนใจจากการเชื่อมโยงเมืองหลวงกับเมืองท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทย ตลอดจนเชื่อมเมืองท่องเที่ยวสำคัญในฝั่งอ่าวไทยเข้าด้วยกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,351 วันที่ 25 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2561