ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยปี 2564 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปี 2563 และจะกลับสู่ภาวะปกติในเวลาไม่นาน จากการปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal ในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 หลายบริษัทฯ ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว และ ทันต่อสถานการณ์
การดำเนินธุรกิจของ บมจ. ศุภาลัย ในปี 2564 นี้ ก้าวสู่ปีที่ 32 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัย การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ แบบบ้านใหม่ การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวมทั้งเดินหน้าลงทุนในทำเลใหม่ๆ ที่จะขยายตลาดให้กว้างขึ้น ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกวัย และมุ่งเน้นเจาะตลาด “เรียลดีมานด์” หรือกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เพราะลูกค้าในกลุ่มนี้ เมื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้ว มักจะดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ตามกำหนด ลดความเสี่ยงในการทิ้งดาวน์ จึงเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมทางต้นทุนทางการเงิน จากอันดับเครดิตองค์กรจาก ทริสเรทติ้ง ระดับ A สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโต และมีแนวโน้มในการสร้างรายได้ และกำไรของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ถือว่า บริษัทฯ มีภาระหนี้สินที่ต่ำที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมและต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า 1.9% ต่อปี
ปีนี้ บริษัทฯ จะขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาได้ผลน่าพอใจ โดยคาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากการขายในต่างประเทศ รวมประมาณ 5,350 ล้านบาท
ด้าน นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมในปี 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทาย แต่บริษัทฯ ก็สามารถก้าวผ่านมาได้อย่างมั่นคง ด้วยความพร้อมทางต้นทุนทาง การเงิน และการบริหารความเสี่ยง เพื่อปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภายนอก ทำให้ผลงานในปีที่ผ่านมาเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ เห็นได้จากยอดลูกค้า Walk เยี่ยมชมโครงการ และยอดจองที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวโครงการทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม รวม 28 โครงการ มูลค่ารวม 24,540 ล้านบาท มียอดขายรวม 24,376 ล้านบาท แบ่งเป็น
• แนวราบ 25 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 11 โครงการ, ภูมิภาค 14 โครงการ)
• คอนโดมิเนียม 3 โครงการ
ด้านทิศทางการดำเนินธุรกิจ และกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ในปี 2564 เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ธุรกิจที่จะ ก้าวไปข้างหน้า..เติบโตอย่างผู้นำ และยั่งยืน ทั้งด้านรายได้ และกำไร
• โดยมุ่งมั่นนำหลักการทำงานแบบ Agile มาปรับใช้ภายในองค์กร เพื่อพัฒนาสินค้า และบริการ ขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว
• พัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ พร้อมแบบบ้านใหม่ ฟังก์ชันใหม่ ให้ตอบโจทย์ยุค New Normal
• เตรียม Launch แอปพลิเคชัน Supalai Sabai ที่ครอบคลุมทุกการบริการอย่างครบวงจร อาทิ การทำธุรกรรมทางการเงิน และบริการหลังการขาย
• ส่งเสริมด้าน Waste management ในกระบวนการก่อสร้าง โดยกำหนดแนวทางการทำงานเพื่อลดปริมาณความสูญเสียของวัสดุก่อสร้างได้อย่างเหมาะสม และสามารถจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างให้เกิดมูลค่าสูงสุด รวมทั้งลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่ ที่มีความน่าเชื่อถือ และเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 27,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 28,000 ล้านบาท ซึ่งมีแผนการเปิดตัว โครงการใหม่จำนวนมากโดยเฉพาะโครงการแนวราบ โดยวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 31 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 27 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 34,000 ล้านบาท และกำหนดงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท
คาดว่าปี 2564 นี้ จะเป็นอีกปีที่ บริษัทฯ มีการเติบโต ทางด้านรายได้ และกำไร แบบ New High จากโครงการคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมโอนฯ ที่รอรับรู้รายได้จำนวนมาก และเชื่อว่าโครงการแนวราบจะมีแนวโน้มเติบโต ได้ต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความปรารถนาดีและความห่วงใย ฝากไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงคนไทยทุกคน เชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกันโดยเร็ว