นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. จะทำหนังสือไปยังกระทรวงการคลังเพื่อขอขยายระยะเวลาการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90 % ออกไปอีก 2 ปี
โดยขอพิจารณาออก พรก.ลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง บางประเภทเพิ่มเติม อีกหนึ่งฉบับ เพื่อลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินลงอีก 90 % ตามมาตรา 55 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชนและผู้ประกอบการทั่วประเทศในทุกภาคส่วน
ทั้งนี้พระราชกฤษฎีกา กำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2564 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 ซึ่งใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 มีความไม่ชัดเจนทำให้อัตราการจัดเก็บไม่ได้ลดลง 90 % ตามข้อเสนอของกกร. แต่อย่างใด และอัตราการจัดเก็บยังเป็นไปตามอัตราเดิมเช่นเดียวกับที่เคยกำหนดไว้ใน พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 มาตรา 94
โดยมาตรการดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะคลี่คลายลง แต่เนื่องจากปัจจัยปัญหาด้านสาธารณสุขและปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี 2563 และปี 2564 ยังคงมีผลกระทบต่อไปในปี 2565-2566 ซึ่งจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสมาคมการค้า กล่าวว่า พรก.กำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2564 ที่ออกมามีผลบังคับใช้ทำให้ยังต้องจัดเก็บอัตราภาษีเท่าเดิม ตามมาตรา 94 ซึ่งเป็นอัตราเริ่มต้น
แต่ไม่ได้มีการอ้างถึงมาตรา 55 ในพ.ร.บ.ฯที่เกี่ยวข้องกับการลดภาษีไปอีก 90% โดยที่ผ่านมาได้รับผ่อนผันจากอัตราการการจัดเก็บ ซึ่งเป็นการสร้างความสับสนเข้าใจผิดคิดว่า รัฐบาลได้ขยายลดค่าใช้จ่ายจากภาษีที่ดินลง 90% ต่อเนื่องอีก 2 ปี
ที่ผ่านมากกร.ได้เคยทำหนังสือไปยังกระทรวงการคลังเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ว่า ควรขยายเวลาอัตราการเก็บภาษีตามมาตรา 94 และมาตรา 55 เหมือนกับปี 64 ไปอีก 2 ปี เนื่องจากธุรกิจยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวจากโควิดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเก็บภาษีในอัตราใหม่ จะสร้างภาระให้กับประชาชนและธุรกิจ
ในขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว กระทบกับการจ้างงาน การขยายธุรกิจ รวมทั้งการดำรงชีพของประชาชนโดยทั่วไป โดยที่ประชุมทางกกร วันนี้มีมติที่จะส่งหนังสือไปยังกระทรวงการคลังอีกรอบเพื่อขอขยายระยะเวลาอัตราการจัดเก็บยังเป็นไปตามอัตราเดิมไปอีก 2 ปี ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของภาคเอกชนและประชาชนได้