พลิกโฉม ”สวนชูวิทย์“ ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุง

25 พ.ค. 2565 | 01:46 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ค. 2565 | 09:05 น.

ที่ดินทำเลสุขุมวิทตอนต้นแนวรถไฟฟ้าBTS ร้อนฉ่า “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีต นักการเมืองชื่อดัง พลิกโฉม”สวนชูวิทย์ “ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” โรงแรม อาคารสำนักงาน ช็อปปิ้ง สูง51ชั้น แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุงดันราคาที่ดินพุ่ง

 

ที่ดินทำเลทองคำฝังเพชรย่านศูนย์กลางธุรกิจสำคัญ ปัจจุบันแทบไม่มีหลงเหลือให้พัฒนาเว้นแต่ ยอมลงทุนซื้อตึกเก่าทุบทิ้งขึ้นบิ๊กโปรเจ็กต์ใหม่ หรือไม่ต้องใช้วิธี ปรับปรุงตึกเก่าให้เกิดการพัฒนาที่คุ้มค่ากับศักยภาพที่ดินที่ควรจะเป็น แม้จะมีต้นทุนที่สูง แต่หากมองในแง่ของการลงทุนในระยะยาวแล้ว ย่อมคุ้มค่า ทางเศรษฐกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ลงทุน

 

 

 

เช่นเดียวกับ สวนชูวิทย์ สวนธารณะของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  อดีตนักการเมืองชื่อดังตั้งอยู่บนที่ดินเนื้อที่6ไร่ สุขุมวิทซอย10 แนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ปอดกลางกรุงที่ให้ร่มเงาไม้ใหญ่ และกรุงเทพมหานครมีเป้าหมายพัฒนาสองสวนได้แก่สวนลุมพินี สวนเบญจกิติ เชื่อมมายังสวนชูวิทย์

พลิกโฉม ”สวนชูวิทย์“ ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุง

ล่าสุดเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งเมื่อที่ดินผืนงาม ถูกพลิกโฉมเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ที่ความสูง51ชั้น ไม่รวมชั้นใต้ดิน “เทนธ์ อเวนิว” ประกอบด้วยอาคารสถานพยาบาล อาคารสำนักงาน โรงแรม สถานศึกษา  พื้นที่พาณิชยกรรมพื้นที่ค้าปลีก ช็อปปิ้ง สร้างแลนด์มาร์คใหม่กลางกรุงโดย ประเมินว่าจะสร้างมูลค่าให้กับที่ดินผืนนี้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท การก่อสร้าง ใช้เวลาก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 4ปีนับจากปี2565  แต่ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวปกคลุมด้านหน้าโครงการ แม้ต้นไม้เก่าแก่ดั่งเดิมจะถูกตัดจนโล่งเตียน

”ฐานเศรษฐกิจ” ลงพื้นที่พบ มีการล้อมรั้ว  บริษัทผู้รับเหมา คนงานอยู่ระหว่างปรับพื้นที่   ติดป้ายประกาศแผนดำเนินโครงการ และขั้นตอนอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ จากการบอกเล่าของผู้ควบคุมงาน และผู้ประสานงานขายพื้นที่โครงการ ระบุว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการรูปแบบผลมผสาน หรือมิกซ์ยูส 

พลิกโฉม ”สวนชูวิทย์“ ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุง

พัฒนาและบริหารการขายในนาม  “ DAVIS CORPORATION “ และบริษัทเอเทนธ์ อเวนิว จำกัด ของตระกูล กมลวิศิษฎ์เจ้าของที่ดิน  หากปรับพื้นที่แล้วเสร็จขั้นตอนต่อไปจะขึ้นโครงและก่อสร้าง ตามแผนเริ่มดำเนินการในปีนี้ เชื่อมการเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ระหว่างสถานี BTS นานา, BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท  ตลอดแนวมีสกายวอล์ครถไฟฟ้าเชื่อมเข้าถึงอาคาร

พลิกโฉม ”สวนชูวิทย์“ ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุง

เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดให้บริการจะเป็นอาคารสูงอาคารขนาดใหญ่พิเศษทันสมัยที่สุดบน ถนนสุขุมวิทตอนต้น สามารถดึงดูด ความสนใจทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติเข้าพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันที่ดินแปลงนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยตึกสูงโรงแรมชั้นนำระดับ4-5ดาว ที่ชาวต่างต่างชาติคุ้นเคย เช่น ไฮแอทรีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท โซฟิเทลกรุงเทพสุขุมวิท

 

อาคารไทมสแควร์ อาคารสำนักงานและศูนย์การค้าชื่อดัง อีกทั้งยังอยู่ไม่ห่าง จากโรบินสัน สุขุมวิท ศูนย์การค้า เทอมินอล21และกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวสูง แบรนด์ดัง ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมหรู ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ,บมจ แสนสิริ

 

ย้อนไปก่อนหน้านี้สวนแห่งนี้ ได้รับความสนใจจากทุนยักษ์อสังหาฯจำนวนมาก โดยเฉพาะ พี่เบิ้ม บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) ได้เคยประกาศเช่า สวนสวนชูวิทย์  ระยะเวลา30 ปี และต่ออายุอีก4ปี รวม 34ปี  ในปี2561 ในราคาที่ดินตารางวาละ7แสนบาท โดยมีแผนนำที่ดินดังกล่าวพัฒนา

พลิกโฉม ”สวนชูวิทย์“ ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุง

โครงการรูปแบบผสมผสาน(มิกซ์ยูส) โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าในรูปแบบอาคารสำนักงาน พื้นที่เช่า 20,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) โรงแรม 400 ห้อง พื้นที่ค้าปลีกอีก 3,000 ตร.ม.ใช้งบลงทุนอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี 62 และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 3 ปีแล้วเสร็จเปิดให้บริการแต่ดีลดังกล่าวมีอันต้องยุติลงอย่างน่าเสียดาย

 

เนื่องจากช่วงปี2560 สถานการณ์เศรษฐกิจซบเซาผู้ประกอบการขนาดใหญ่ต้องการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจเช่าเชิงพาณิชย์ที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวนอกจากการลงทุนในกลุ่มที่อยู่อาศัย เพียงอย่างเดียว

 

ขณะราคาที่ดิน 2 ล้านบาทต่อตารางวา ทำเลไม่ห่างกันเป็นที่ดินที่ตั้งของโรงเรียนบรรณวิทย์ โรงเรียนเอกชนเนื้อที่ 2ไร่เศษ ตั้งอยู่ใน ซอยสุขุมวิท 8  ถูกล้อมด้วยตึกสูง ปัจจุบันได้ปิดตัวลงจากสถานการณ์โควิด19 แม้เจ้าของเดิมเคยประกาศไม่ขายที่ดิน แต่ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงทำให้ นักลงทุนจำนวนไม่น้อยหันมาสนใจอีกครั้ง

 

 นายวสันต์ คงจันทร์. กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัดบริษัทประเมินราคาที่ดินระบุว่าสวนชูวิทย์เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสามารถพัฒนาได้ค่อนข้างมากและหลากหลาย อีกทั้งที่ดินยังตั้งติดถนนสุขุมวิท ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ราคาที่ดินอยู่ที่2ล้านบาทต่อตารางวา และสามารถปรับขึ้นได้อีก

 

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัดบริษัท วิจัยสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าที่ดินทำเลสวนชูวิทย์ มีศักยภาพสูง ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร แผนพัฒนาเป็นมิกซ์ยูส ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม รีเทล ราคาที่ดินจะขยับสูง ขณะศักยภาพที่ดินสามารถก่อสร้างได้สูงผังเมืองกรุงเทพมหานครกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินพัฒนาได้สูงถึง 10 เท่าของแปลงที่ดินเนื่องจากเป็นกรุงเทพฯชั้นใน

 

สำหรับสวนชูวิทย์  เดิมให้เช่าเป็นบาร์เบียร์และร้านค้าชื่อ สุขุมวิทสแควร์ ที่ผ่านมานายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิมเมื่อ ปี2545 เคยมีแผนสร้างโรงแรมระดับ 4 ดาว แต่เกิดปัญหากับผู้เช่าเดิม และคดีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาไล่รื้อถอนบาร์เบียร์และร้านค้าเมื่อวันที่ 26 มกราคม ปี2546

 

จากการถูกกลั่นแกล้งในครั้งนั้น ทำให้นายชูวิทย์ตัดสินใจออกจากธุรกิจอาบอบนวด หันมาทำงานการเมือง และยกเลิกโครงการสร้างโรงแรม สร้างเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้งานแทน ที่ดินแปลงดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่า 5,500 ล้านบาท และเป็นที่ดินแปลงใหญ่แปลงเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในบริเวณถนนสุขุมวิทตอนต้น

 

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎฺ์ เคยแจ้งในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีบุตรในสมรส 4 คน และนอกสมรสที่รับรองแล้ว 1 คน รวม 5 คนคือ นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ คนโต นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎฺ์ คนรอง น.ส.ตระการตา กมลวิศิษฎ์ คนที่สาม นายต่อตระกูล กมลวิศิษฎฺ์ คนที่สี่ และ น.ส.ดวงตระการ กมลวิศิษฏ์

 

ข้อมูลล่าสุด นายเติมตระกูลมีชื่อเป็นกรรมการ 7 บริษัทในกิจการหลายพันล้านของครอบครัว โดยมีบุตรนายชูวิทย์อีก 3 คนร่วมถือหุ้นด้วย

1.บริษัท ต้นตระกูล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 พฤษภาคม 2533 ทุนล่าสุด 170 ล้านบาท ประกอบการ การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของ ตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย ที่ตั้งเลขที่ 909 ซอยสุทธิพร ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.

 

 และสาขา 3 แห่ง นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ นายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ นางสาวตระการตา กมลวิศิษฎ์ เป็นกรรมการและ ถือคนละ 420,725 หุ้น มูลค่า 42,072,500 บาท จากทั้งหมด 170,000 หุ้น มลค่าหุ้นละ 100 บาท

 

2.บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 มีนาคม 2536 ทุนล่าสุด 170 ล้านบาท กิจการโรงแรม ที่ตั้งเลขที่ 88 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ นางสาวตระการตา กมลวิศิษฎ์ และ นายต่อตระกูล กมลวิศิษฎ์ ถือคนละ 420,725 หุ้น มูลค่า 42,072,500 บาท และเป็นกรรมการร่วมกับ พลตำรวจตรี คงเดช ชูศรี

 

3.บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ธันวาคม 2545 ทุนล่าสุด 250 ล้านบาท ประกอบการ ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งเลขที่ 88/8 ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร บุตรชายนายชูวิทย์ทั้ง 4 คนเป็นกรรมการและถือหุ้นคนละ 612,475 หุ้น มูลค่า 61,247,500 บาท นายฤทัย กมลวิศิษฎ์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ร่วมเป็นกรรมการด้วย

 

4.บริษัท เดวิส ไรมอน แลนด์ ทเวนตี้ โฟร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 23 กันยายน 2562 ทุนล่าสุด 50 ล้านบาท ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (ลงทุน) และที่ปรึกษา ที่ตั้งเลขที่ 88 ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร นายเติมตระกูลถือ 125,000 หุ้น มูลค่า 12,500,000 บาท นายต้นตระกูล กมลวิศิษฎ์ ถือ 250,000 หุ้น และ นางสาว ตระการตา กมลวิศิษฎ์ ถือ 125,000 หุ้น รวมทั้งสิ้น 500,000 หุ้น

 

5.บริษัท เทนธ์ อเวนิว จำกัด จดทะเบียนวันที่ 6 มีนาคม 2563 ทุนล่าสุด 1 ล้านบาท ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์ (ซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาและให้คำปรึกษา) ที่ตั้งเลขที่ 88 ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ และพี่น้องอีก 3 คน เป็นกรรมการและถือหุ้นคนละ 2,500 หุ้น มูลค่าคนละ 250,000 บาท รวมทั้งหมด 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นต้น

พลิกโฉม ”สวนชูวิทย์“ ปั้นมิกซ์ยูส “เทนธ์ อเวนิว” แลนด์มาร์คใหม่กลางกรุง