10 ก.พ.2566 - สัญญาณเศรษฐกิจไทย ที่กลับมาฟื้นตัวดี หนุนกำลังซื้อในตลาดที่อยู่อาศัย ทิศทางน่าจะเป็นบวก ในปี 2566 ได้ดึงดูดให้ 'ทุนใหญ่' ทั้งในและนอกวงการอสังหาริมทรัพย์ ขยับบุกหนักในการพัฒนาที่ดินอีกครั้ง เช่นเดียวกับ การรุกของ ตระกูล 'มหากิจศิริ' แห่ง เนสกาแฟ ซึ่งมีพอร์ตการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ภายใต้ บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยการนำของทายาทคนสำคัญ " อุษณา มหากิจศิริ " ก็เปิดเผย แผนธุรกิจอสังหาฯปีนี้ อย่างน่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะ การมีพันธมิตรทางธุรกิจ เป็นกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ KRD แห่งญี่ปุ่น ที่พร้อมจะลงขันลุยลงทุนด้วยอย่างหนัก และมีเป้าหมายร่วมกันระยะยาว ประเดิมเปิด 2 โปรเจ็กต์ มูลค่า 3.9 พันล้านบาท
อสังหาฯปี 66 โต
นางสาวอุษณา เปิดรายละเอียดแผนงาน หลังมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะกลับมาหนุนให้อสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยชี้ว่า มีแรงหนุนจากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศที่ยังไหลมาลงทุนในไทยผ่านตลาดทุนและการลงทุนในกลุ่มเรียลเซ็กเตอร์ต่างๆ
ประกอบกับจีนมีนโยบายเปิดประเทศ ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักมากขึ้นอีกครั้ง เชื่อมั่น ปัจจัยบวกเหล่านี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน
การทำธุรกิจสไตล์ "เดอะ เดอะเนสท์' แข็งแกร่งด้วย พาร์ทเนอร์ยักษ์
ผู้บริหารหญิงคนเก่ง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การทำธุรกิจต้องมองทั้งมุมบวกและมุมลบเพื่อประกอบในการกำหนดนโยบาย พร้อมประเมินว่า หากภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นยอดขายอสังหาฯ ตัวเลขจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันความต้องการ (Demand) ซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบของผู้บริโภคในประเทศเองก็แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนภาพได้จากยอดขายบ้านแนวราบของบริษัทฯ ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคภายในประเทศ รวมถึงผลประกอบการด้านยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงปี 2565 ของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เน้นเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ
ทั้งหมด ทำให้ปีนี้เรายังคงเชื่อมั่นและร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะ ร่วมทุนกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น คือบริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
" KRD เป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและความเป็นมืออาชีพของทีมงาน The Nest Property พร้อมกันนี้ KRD พร้อมที่จะใส่เม็ดเงินเข้ามาเพิ่มเพื่อเตรียมจะซื้อที่ดินแปลงใหม่รองรับแผนการลงทุน "
ทุนยักษ์ญี่ปุ่น เชื่อมั่นลงทุนในไทย
ขณะ นายเคนอิจิ ฟูจิโนะ ประธานกรรมการ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ KRD กล่าวว่า แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะเผชิญกับความท้าทายบางประการ เช่น ต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นจากราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้น แต่เราเชื่อว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางสำหรับชาวจีน จะนำไปสู่การฟื้นตัวต่อไปของเศรษฐกิจไทยกับการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์
“เรารู้สึกเสมอว่าพันธมิตรของเราอย่าง The Nest Property เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ โดยเห็นได้จากความร่วมมือทางธุรกิจของเราที่โครงการคอนโดมิเนียม 125Sathorn ที่ประสบความสำเร็จจนเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงโครงการ AERIE ที่อยู่ริมถนนกรุงเทพกรีฑายังได้รับความนิยมและมียอดจองจำนวนมาก ในฐานะบริษัทญี่ปุ่น เรามีความยินดีที่ลูกค้าชาวไทยเลือกโครงการของเรา”
ดีมานด์แนวราบ มาแรง! แต่โอกาส คือ กลุ่มบ้าน Luxury
สำหรับแผนร่วมลงทุนของ 2 ฝ่ายนั้น อยู่ภายใต้มุมมองต่อโอกาสในตลาดอสังหาฯ ของนางสาว อุษณา ว่า ปีนี้ บริษัทจะพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ หรือกลุ่มบ้าน Luxury พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่บริษัทฯ ได้ขยายฐานมาตั้งแต่ปี 2565 ด้วยการเปิดบ้านแนวราบในกลุ่มบ้าน Luxury โซนตะวันออก ซึ่งเป็นโซนที่มีการเติบโตทางการตลาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าไปในพื้นที่อย่างชัดเจน
โดยในรายละเอียด เป็นการเปิดใหม่ 2 โครงการ รวมมูลค่า 3,900 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “เอเวียน ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา” (AVIAN Srinakarin-Krungthepkreetha) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นตั้งอยู่บนเนื้อที่ 42-0-54 ไร่ จำนวน 166 ยูนิต แต่ละยูนิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ตั้งแต่ 50.37-111.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 230-290 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท* จะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2566 มีมูลค่าโครงการประมาณ 2,700 ล้านบาท
“โครงการนี้อยู่ติดถนนกรุงเทพกรีฑา ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันที่หลากหลายและจุดเด่นที่ทุกคนจะต้องประทับใจ อีกทั้งยังมีความคุ้มค่าเรื่องราคา ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว ราคาเปิดตัวเพียง 12.9 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับดีเหมือนกับโครงการ AERIE ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา”
ส่วนโครงการที่ 2 พัฒนาภายใต้ชื่อ “แอร์รี่ ศรีนครินทร์-สวนหลวง” (AERIE Srinakarin–Suan Luang) พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดิน 9-2-25 ไร่ จำนวน 43 ยูนิต แต่ละยูนิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ตั้งแต่ 52.8-74.22 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 313-370 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 22.9 ล้านบาท* จะเปิดตัวในไตรมาส 4 มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท
" ตลาดกลุ่มบ้าน Luxury ที่มีระดับราคาช่วง 20-40 ล้านบาท จากการสำรวจตลาดของทีม Research ข้อมูล พบว่ายังมีซัพพลายเหลืออยู่ในตลาดไม่มาก ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงเล็งเห็นถึงโอกาสของตลาดบ้านกลุ่มนี้พร้อมออกแบบบ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว และให้มีความโดดเด่นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค "
ตั้งเป้ายอดขาย 2.7 พันล้านบาท
พร้อมกันนี้ นางสาวอุษณา ยังกล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับปี 2566 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,700 ล้านบาท โดยมีโครงการที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ โครงการ AERIE ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา ซึ่งในปีนี้จะมีการทยอยสร้างบ้านเสร็จออกมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 60 ยูนิต ซึ่งมีลูกค้าจองไปแล้วประมาณ 40% ขณะที่โครงการใหม่อีก 2 โครงการ ที่จะเปิดในปีนี้ จะเป็นบ้านที่ทยอยสร้างเสร็จพร้อมขายและพร้อมโอนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นการพัฒนาของบริษัทฯ เอง 100% อีก 5 โครงการคือ โครงการ The Nest Condo เพลินจิต, The Nest Condo Sukhumvit 22 , The Nest Condo Sukhumvit 64, The Nest Condo Sukhumvit 71 และโครงการ The Nest Condo Chula – Samyan