สถานการณ์โควิด-19 อาจเป็นฝันร้ายของใครหลายคน แต่สำหรับบริษัท สยาม เจ เอ็น เค จำกัด หรือ “SIAMJNK” ผู้นำธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าให้เช่าครบ
วงจร ย่านใจกลางเมืองกลับเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสนใจเนื่องจากทำเลอยู่ศูนย์กลางเมือง เชื่อมการเดินทางสะดวก ถึงมือ
ผู้บริโภคได้ง่าย รวมถึงเป็นจุดแวะพัก เมื่อสินค้าขึ้นฝั่งที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ก่อนกระจายไปยังพื้นที่อื่นใกล้เคียง
นางปัญจมา คัณธามานนท์ ประธานบริหารฝ่ายการลงทุน “SIAMJNK” ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าแนวโน้ม ธุรกิจแวร์เฮาส์ เติบโตต่อเนื่อง สะท้อนจากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังจาก เปิดประเทศ ต่างชาติ เดินทางเข้าไทย ธุรกิจต่างๆกลับมาเดินหน้าตามปกติ การอุปโภค บริโภคเพิ่มมากขึ้น แม้ว่ายังมีความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกถดถอย
เมื่อมองภาพรวม ในธุรกิจโลจิสติกส์ ค่อนข้างเติบโตทั้งในแทบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศไทยเองก็ตาม และประเมินว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตค่อนข้างมากประมาณ50% จึงเป็นโอกาสที่ดีต่อการพัฒนาธุรกิจและการขยายพื้นที่ต่อเนื่องรองรับเทรนด์โลจิสติกส์ในแถบภูมิภาคดังล่าว
โดยเบื้องต้นยังเน้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นหลักและในอนาคต มีแผนขยายการลงทุนออกไปยังจังหวัดหัวเมืองใหญ่ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐ อาทิรถไฟทางคู่ เป็นต้น
แผนธุรกิจแวร์เฮาส์
โดยปัจจุบัน แผนธุรกิจ บริษัท เน้นการพัฒนาคลังสินค้าเป็นหลัก รูปแบบ “บูทีค แวร์เฮาส์” ซึ่งแตกต่าง จากคลังสินค้าทั่วๆไป ปัจจุบันมีอยู่4ทำเล ที่เปิดให้บริการแล้วและสิ้นปีนี้จะเปิดอีกทำเลโดยจะเน้นย่านศูนย์กลางเมือง ที่เป็นปัจจัยสำคัญ ที่มีความแตกต่างจาก คู่แข่ง ได้แก่ ทำเลถนนจันทน์ เนื้อที่ 19 ไร่ ที่สามารถเดินทางได้หลายช่องทางกระจายสินค้าได้สะดวก ติดศูนย์ธุรกิจ ย่านสาทร และเจริญกรุง
นอกจากนี้ ยังมีทำเล ราษฎร์บูรณะเนื้อที่ 40 ไร่ ติดแม่นํ้าเจ้าพระยาลาดพร้าว87 วิภาวดี ย่านสุทธิสาร ไร่เศษ ที่ให้บริการแล้วสิ้นปีนี้จะเปิดที่พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการซึ่งเป็นที่ดินแปลงศักยภาพและผังเมืองรวมจังหวัดสมุทรปราการกำหนดเป็นเขตพื้นที่สีม่วง (อ.1) กำหนดเป็นเขตอุตสาหกรรม ที่หาได้ยากยิ่งอีกทั้งยังใกล้ย่านธุรกิจอย่างสาทรได้อย่างรวดเร็ว
มองทำเลมีศักยภาพ
นางปัญจมา สะท้อนแนวคิดการเลือกทำเลกลางใจเมืองเป็นที่ตั้ง แวร์เฮาส์ ว่า เน้นใกล้คอนซูเมอร์และมองว่าการขนส่งสิ่งมีความสำคัญ หากอยู่ในทำเลที่ใกล้ลูกค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท นอกจากนี้ยังลงทุนพัฒนา สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน สำหรับผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่
ทั้งพื้นที่จอดรถเทรลเลอร์ ห้องประชุมสัมมนา สันทนาการ คลับเฮาส์ ระบบรักษาความปลอดภัย24 ชั่วโมง เทียบเท่าที่ สถาบันการเงิน สนามบินใช้ ที่เพิ่มเข้ามามากกว่าที่อื่นในละแวกใกล้เคียง ที่อาจให้บริการแค่คลังสินค้าธรรมดาทั่วๆไปแต่ของ บริษัท ได้เพิ่มสิ่งเหล่านี้
“การออกแบบ เรามองว่าทำอย่างไรให้มันดูเด่นดูสวยต่างจากคลังสินค้าทั่วๆ ไป โดยเน้นการดีไซน์ ค่อนข้างสวยทันสมัย เหมาะกับผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาเขาเห็นและชอบตรงนี้ และยังมีคลับเฮาส์เป็นจุดที่ให้บริการไม่ว่าจะเป็นการจัดงานจัดสัมมนาหรือห้องประชุม ที่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องมีออฟฟิศส่วนตัวเป็นหน้าเป็นตา”
กลุ่มลูกค้า
สำหรับกลุ่มลูกค้า มีหลากหลายทุกธุรกิจแต่เน้นหลักๆคือธุรกิจเอสเอ็มอี รายกลาง 70% 30% เป็นรายใหญ่และมีทุกอุตสาหกรรมหลากหลาย ยกตัวอย่าง ถนนจันทน์, ราษฎร์บูรณะ ฯลฯ ขนาดตั้งแต่500 ตารางเมตรจนเป็น10,000 ตารางเมตร ดังนั้นกลุ่มลูกค้าจะหลากหลาย ตามความต้องการของลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยธุรกิจเอสเอ็มอี ที่เข้ามาจองฟื้นที่จะเป็นขนาดเริ่มโต ไม่ถึงกับเล็กมาก
มีพื้นที่รองรับตั้งแต่100 ตารางเมตรไปจนถึง5,000 ตารางเมตร ยืดหยุ่นตามความต้องการขณะราคาค่าเช่าต่อตารางเมตรขึ้นอยู่กับทำเล แต่สิ่งที่แถมคือระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
แผนขยายธุรกิจ
ด้านแผนขยายธุรกิจไปยังจังหวัดใกล้เคียงหัวเมืองใหญ่ จะเป็นลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไป แต่ปัจจุบัน เน้นกรุงเทพฯปริมณฑล ขณะเดียวกัน ยังไม่ให้ความสำคัญกับ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพราะเป็นเมืองที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่บริษัทเลือกมองเมือง ที่โตแล้ว
มีความต้องการเก็บสินค้าที่อยู่ใกล้ผู้บริโภคมากกว่า เช่นกรณีของขอนแก่นรวมทั้งโปรเจ็กต์ภาครัฐที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าแนวดิ่งหรือแนวขวาง ตามเมืองที่เป็นจุดตัด ที่บริษัทจะวิ่งเข้าไปโดยมุ่งซัพพอร์ต ลูกค้าในทำเลกลางเมือง และกระจายไปยังหัวเมืองในอนาคตซึ่งทุกพื้นที่ มีลูกค้าจองเต็ม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์โควิด หลายธุรกิจไม่ค่อยดีแต่ บริษัท ได้รับการตอบรับดีต่อเนื่องเพราะไปสอดรับกับผู้ประกอบการทำธุรกิจที่เน้นความคล่องตัว ไม่ต้องมีออฟฟิศเป็นของตนเอง และมีแพลตฟอร์มใหม่ไลฟ์สไตล์ ขายสินค้าออนไลน์ เทคโนโลยีเปลี่ยนดังนั้นแวร์เฮาส์กลางเมืองงค่อนข้างตอบโจทย์ในขณะที่ หลายธุรกิจเคลื่อนไปข้างหน้าไม่ได้ในช่วงนั้น
จุดประกายธุรกิจ
ย้อนที่มาของ “ SIAMJNK” เป็นคลังสินค้าให้เช่า ที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นโอกาสความเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในเขตกรุงเทพฯชั้นในอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสต์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมๆ กับการประกาศเป็น Hub Logistic ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของไทย
จึงจุดประกายเริ่มต้นมองหาพื้นที่ขนาดใหญ่ 19 ไร่ เช่าระยะยาว 30 ปีต่อได้อีก 30 ปีเป็น 60 ปี โซนพื้นที่ใจกลางซีบีดี อย่างสาทรเพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าภายใต้แนวคิด “The Best Location For Your Business” ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากกลุ่มธุรกิจก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่นทำเลในเมืองอย่างย่านราษฎร์บูรณะริมแม่นํ้าเจ้าพระยา
โดยทีมนักออกแบบที่มีผลงานออกแบบอาคาร และพื้นที่ส่วนกลางให้กับโครงการคอนโดมิเนียมชั้นนำของเมืองไทย ออกแบบ “WLUBHOUSE” ให้เป็นคลับเฮาส์ ลักชัวรี่ โดยทุกทำเลจะเน้น ความเป็นพรีเมี่ยม และ 3 หัวใจสำคัญที่มัดใจลูกค้ามาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ “Location-Security- Facilities”