บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มตลาดลักชูรี เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอบ้านเดี่ยว เพื่อขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านในกลุ่มลักชัวรียิ่งขึ้น ครอบคลุมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มมีความต้องการบ้านในมิติ
การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น โดยเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ “SHAWN” เซกเมนต์ใหม่ในกลุ่มลักชัวรี ของสิงห์ เอสเตท ในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก พร้อมกันถึง 2 โครงการ บนถนนปัญญาอินทรา และวงแหวน-จตุโชติ
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อครึ่งหลังของปี 2023 พบว่า มีโครงการบ้านลักชูรีในช่วงราคา 20-30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 49% จึงทำให้โอกาสที่เปิดกว้างจากเซกเมนต์นี้ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกค้า
ด้วยแนวคิด Best In Class ที่สิงห์ เอสเตท ยึดมั่น โดยมี 5 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้
Prime Location ทำเลทองที่จะสร้างมูลค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำเลโซนนี้มีความสะดวกในด้านการคมนาคม อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และสีส้ม มีถนนเทพรักษ์ตัดใหม่ เชื่อมถนนวิภาวดี-พหลโยธิน ในเฟสแรกคาดว่าเปิดใช้ในปีนี้ และเฟสสอง เชื่อมต่อมายังถนนพระยาสุเรนทร์ คาดว่าจะเปิดใช้ปี 2572 ส่งผลให้ผู้อาศัยมีความสะดวกสบายในการเดินทางยิ่งขึ้น
Signature Planning & Crafted to Last Design การวางแปลนตอบสนองการใช้พื้นที่ ที่สามารถยืดหยุ่นได้ตามความต้องการของผู้อาศัย และประณีตในการออกแบบตกแต่ง เช่น ดับเบิลวอลลุ่มที่ออกแบบโครงสร้างให้มีคาน รองรับน้ำหนักพื้นเพื่อการปรับขยายพื้นที่ชั้นสองได้
Quality & Invisible Details การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและความใส่ใจในรายละเอียดที่แม้จะมองไม่เห็นแต่มีผลต่อการอยู่อาศัย
Sustainability การออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เช่น พื้นที่สีเขียวสำหรับใช้สอย หลังคารองรับการติดตั้ง Solar Roof และระบบสายดินรองรับการติดตั้งที่ชาร์จรถ EV เป็นต้น
Service & Living Experience การบริการหลังการขายที่มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ โดย S KLAS บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ภายในเครือ สิงห์ เอสเตท
การเปิดโครงการบ้านหรูระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์ใหม่ SHAWN พร้อมกันถึง 2 ทำเลทองในกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ได้แก่ ปัญญาอินทรา และวงแหวน-จตุโชติ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของพื้นที่ซึ่งรองรับการขยายเมือง โดยมูลค่าการลงทุนทั้ง 2 โครงการรวมกันประมาณ 4,600 ล้านบาท
โครงการ SHAWN ปัญญาอินทรา บ้านเดี่ยวสไตล์ MODERN TROPICAL CONTEMPORARY ติดถนนเลียบคลองสอง ใกล้ถนนคู้บอน มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 100 ตรว. ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ ไฮไลท์โครงการนี้ ตัวบ้านมีหน้ากว้าง มีพื้นที่สีเขียวโดยรอบ และแสงธรรมชาติเข้าถึงทุกพื้นที่ในบ้าน มีเพียง 72 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 22-40 ล้านบาท
โครงการ SHAWN วงแหวน-จตุโชติ บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Classic ทำเลใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนจตุโชติ ไฮไลท์ของโครงการนี้ คือดีไซน์แปลนบ้านพิเศษซึ่งมีเฉพาะในโครงการนี้ คือ แปลนบ้าน “Garden Courtyard” สวนขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้จากทุกห้อง
ภายในบ้าน และทุกพื้นที่ในชั้นล่างสามารถเข้าถึงได้ มี 158 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18-30 ล้านบาท
นางสาวภานิชา จิรภาคย์ รองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด การพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า ความโดดเด่นของ SHAWN ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ The Signature Planning เป็นวิธีการออกแบบที่พื้นที่ใช้สอยในบ้าน จากการเข้าใจ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถออกแบบฟังก์ชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ และตรงกับ
ความต้องการในการใช้ชีวิตของลูกบ้าน รวมถึงสร้างการออกแบบและก่อสร้างที่สร้างความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ และฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตามการเติบโตของครอบครัวในอนาคต ซึ่งสิงห์ เอสเตท ได้คิดเผื่อลูกบ้านในระยะยาว เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกบ้าน ด้วยองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน ที่เป็นหลักการในการออกแบบทุกโครงการของสิงห์ เอสเตท ได้แก่ Space for Multi-Generation การออกแบบโดยคำนึงถึงผู้อาศัยในทุกช่วงวัย Provision for Future Expansion แนวคิดการออกแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่และฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อรองรับการเติบโตของครอบครัวในอนาคต Maximize Green Space การให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว และอากาศที่สดชื่นจากธรรมชาติโดยระบบ S-Air System หมุนเวียนอากาศภายในบ้าน และสุดท้ายคือ Fengshui หรือการคำนึงถึงการออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย
นอกจากนี้ ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารที่เน้น Brand Personality เชื่อมโยงไปยังกลุ่ม Young Successor ซึ่งจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง และจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็น Key Success ของสิงห์ เอสเตท
ทั้งนี้ “SHAWN” ทั้งสองโครงการเปิดจะพรีเซลวันที่ 25-26 พฤษภาคมนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่ 400-500 ล้านบาท เฉลี่ยอัตราการขายที่โครงการละ 2-3 หลังต่อเดือน
ขณะเดียวกัน สิงห์ เอสเตท ยังมีโปรเจกต์สำคัญตามแผนงานในปี 2567 ที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปลายปี มูลค่ารวมอีกราว 10,000 ล้านบาท