ออริจิ้น เปิดบ้าน-คอนโดใหม่ อีก 11,180 ล้าน คาดมาตรการรัฐหนุนยอดโอน Q2/2567

25 พ.ค. 2567 | 10:34 น.

ออริจิ้น เปิดบ้าน-คอนโดใหม่ อีก 11,180 ล้าน บุกตลาด Pet Family Condo-บ้านเดี่ยว คาดมาตรการรัฐหนุนยอดโอน Q2/2567 โครงการราคาต่ำ 7 ล้านในพอร์ตกว่า 80%

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2/2567 (เม.ย.-มิ.ย.67) บริษัทมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรใหม่ในเครือรวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,180 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มคอนโดมิเนียม ภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL มี 5 โครงการ แบ่งเป็น กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้แนวคิด Origin Pet Family จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (มูลค่า 2,300 ล้านบาท 2.ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ มูลค่า 2,030 ล้านบาท 3.ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น มูลค่า 1,400 ล้านบาท และกลุ่มคอนโดมิเนียมในหัวเมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองเศรษฐกิจ 2 โครงการ ได้แก่ 1.ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต มูลค่า 1,450 ล้านบาท และ 2.ดิ ออริจิ้น ศรีราชา มูลค่า 750 ล้านบาท

พีระพงศ์ จรูญเอก

 

“แนวโน้มกลุ่มผู้ซื้อคนรุ่นใหม่ขณะนี้ ให้ความสำคัญกับเทรนด์เลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยมากขึ้น ภาพรวมตลาดหัวเมืองต่างจังหวัดก็ยังมีการตอบรับที่ดี เราจึงเลือกเปิดคอนโดมิเนียมด้วยเซ็กเมนท์ที่แตกต่าง ในทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าหลากหลายและกำลังซื้อยังแข็งแรง เช่น ในทำเลเตาปูน และแจ้งวัฒนะ เป็นรายแรกที่พัฒนาโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ในทำเลดังกล่าว ขณะเดียวกัน ภูเก็ตและศรีราชาเป็น 2 ทำเลที่ยังมีความต้องการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่เอง และซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว รวมถึงมีดีมานด์จากตลาดต่างชาติ โดยโครงการที่เปิดตัวในปีที่แล้วที่ภูเก็ต รวมถึงโครงการในต่างจังหวัดปีนี้ที่เปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ คือ โซ ออริจิ้น บางเทา บีช และดุสิต สวีท เรสซิเดนเซส เขาใหญ่ ที่มียอดขายสะสมส่วนที่เปิดขายแล้วเฉลี่ยกว่า 74%” นายพีระพงศ์ กล่าว

แผนโครงการ

สำหรับกลุ่มบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ให้ความสำคัญกับการเปิดโครงการมิกซ์โปรดักท์ที่ผสมผสานระหว่างบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในโครงการเดียว เน้นเจาะทำเลฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับการตอบรับดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รวม 2 โครงการ ได้แก่ 1. บริทาเนีย เวสต์เกต (Britania Westgate) มูลค่า 2,600 ล้านบาท และ 2.บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 (Britania Ratchaphruek 345) มูลค่า 650 ล้านบาท

นายพีระพงศ์​ กล่าวอีกว่า ไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.67) บริษัทมีรายได้ 3,213 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 464 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) ณ สิ้นไตรมาสดังกล่าวกว่า 46,571 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/2567 นี้ มีโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ที่จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์เป็นครั้งแรกรวม 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โซ​ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์ (SO Origin Kaset Interchange) 2.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น (Origin Plug & Play Nonthaburi Station) 3.ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น (Origin Play Sriudom Station) 4.บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 (Britania Ratchaphruek 345) และ 5.บริทาเนีย เวสต์เกต (Britania Westgate) โดยคอนโดมิเนียม 3 โครงการดังกล่าว มีแบ็คล็อกแล้วกว่า 80% 

ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ประกาศ ตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% การลดค่าจดทะเบียนการจำนอง อสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อรวมถึงตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทมีสินค้ารอการขาย (Inventory) ทั้งกลุ่มโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและโครงการพร้อมอยู่ ในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เป็นสัดส่วนถึงราว 80% ของสินค้า Inventory ทั้งหมด

“เศรษฐกิจภาพรวม ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม แต่เราก็เห็นสัญญาณต่างๆ ที่ค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ชะลอตัวลง เราเองจะยังคงเดินหน้าพัฒนาบ้านและคอนโดที่มีนวัตกรรม มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะมีกิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น” นายพีระพงศ์ กล่าว

แผนพัฒนาคอนโดมิเนียม