5 ทำเลฮอตบ้านจัดสรร-คอนโด Q1 ปี 67 พร้อมจับตา 5 โซนสต็อกล้น

24 มิ.ย. 2567 | 08:39 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2567 | 09:00 น.

REIC เผย 5 ทำเลยอดขายสูงสุดของบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1/2567 พร้อมชี้ 5 โซนหน่วยเหลือขายสูง เสี่ยงอุปทานล้นตลาด

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยยอดขายใหม่ของตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1 ปี 2567 ระบุว่า ยอดขายได้ใหม่ของที่อยู่อาศัยแนวราบในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 9,679 หน่วย โดยลดลง 16.1% มูลค่า 62,863 ล้านบาท ลดลง 9.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สำหรับ 5 ทำเลบ้านแนวราบที่มียอดขายใหม่สูงสุด ได้แก่

  1. โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มียอดขายใหม่ 2,161 หน่วย มูลค่า 14,411 ล้านบาท
  2. โซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ มียอดขายใหม่ 1,295 หน่วย มูลค่า 5,703 ล้านบาท
  3. โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย มียอดขายใหม่ 1,210 หน่วย มูลค่า 6,558 ล้านบาท
  4. โซนลำลูกกา-ธัญบุรี มียอดขายใหม่ 703 หน่วย มูลค่า 3,179 ล้านบาท
  5. โซนเมืองสมุทรสาคร มียอดขายใหม่ 696 หน่วย มูลค่า 3,644 ล้านบาท

ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดมียอดขายได้ใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 5,940 หน่วย ลดลง 39% เป็นมูลค่า 27,207 ล้านบาท ซึ่งลดลง 24.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดย 5 ทำเลคอนโดมิเนียมที่มียอดขายใหม่สูงสุด ได้แก่

  1. โซนคลองหลวง มียอดขายใหม่ 1,057 หน่วย มูลค่า 1,794 ล้านบาท
  2. โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มียอดขายใหม่ 487 หน่วย มูลค่า 1,472 ล้านบาท
  3. โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด มียอดขายใหม่ 441 หน่วย มูลค่า 1,861 ล้านบาท
  4. โซนห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง มียอดขายใหม่ 439 หน่วย มูลค่า 1,692 ล้านบาท
  5. โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด มียอดขายใหม่  421 หน่วย มูลค่า 987 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ดร. วิชัย ยังระบุ 5 ทำเลบ้านแนวราบที่ต้องระมัดระวังเนื่องจากมีหน่วยเหลือขายที่มากติดอันดับต้น ๆ แม้ว่าบางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดี ได้แก่

  1. โซนบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย มีหน่วยเหลือขาย 20,214 หน่วย มูลค่า 110,177 ล้านบาท
  2. โซนลำลูกกา-ธัญบุรี มีหน่วยเหลือขาย 16,109 หน่วย มูลค่า 93,280 ล้านบาท
  3. โซนคลองหลวง มีหน่วยเหลือขาย 14,478 หน่วย มูลค่า 56,803 ล้านบาท
  4. โซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มีหน่วยเหลือขาย 13,183 หน่วย มูลค่า 83,193 ล้านบาท
  5. โซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก มีหน่วยเหลือขาย 11,244 หน่วยมูลค่า 52,080 ล้านบาท

ส่วน 5 ทำเลที่มีหน่วยเหลือขายมากแม้บางพื้นที่จะมียอดขายและอัตราการดูดซับที่ดี สำหรับคอนโดมิเนียม ได้แก่

  1. โซนห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง มีหน่วยเหลือขาย 10,588 หน่วย มูลค่า 43,059 ล้านบาท
  2. โซนธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด มีหน่วยเหลือขาย 9,469 หน่วย มูลค่า 31,397 ล้านบาท
  3. โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ มีหน่วยเหลือขาย 8,251 หน่วย มูลค่า 27,299 ล้านบาท
  4. โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด มีหน่วยเหลือขาย 6,293 หน่วย มูลค่า 16,121 ล้านบาท
  5. โซนลาดพร้าว-วังทองหลาง-บางกะปิ มีหน่วยเหลือขาย 5,382 หน่วย มูลค่า 17,607 ล้านบาท

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์

“จากผลสำรวจข้อมูลแสดงให้เห็นว่าภาพรวมไตรมาส 1 ปี 2567 ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลยังขับเคลื่อนตัวด้วยโครงการบ้านแนวราบกว่าอาคารชุด แต่อย่างไรก็ตาม ควรเฝ้าระวังสต๊อกคงเหลือและอัตราการดูดซับที่ต่ำลงในหลายพื้นที่ ซึ่งต้องมีการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะทำเลที่มีอัตราการดูดซับลดลง” ดร. วิชัย กล่าวสรุป