ตลาดรับสร้างบ้านหรูโตแกร่ง! มูลค่าพุ่งสวนทางเศรษฐกิจ

01 ส.ค. 2567 | 04:17 น.
อัพเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2567 | 04:44 น.

ตลาดรับสร้างบ้านหรูยังเติบโตไม่หยุด ผู้ประกอบการเผยกำลังซื้อกลุ่มลูกค้าระดับบนยังไปได้สวย มูลค่าบ้านพุ่งสูงต่อเนื่อง สวนทางภาพรวมตลาดอสังหาฯ ที่ชะลอตัว

ในภาวะที่สภาพเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตกอยู่ท่ามกลางความท้าทาย ในทางกลับกันธุรกิจรับสร้างบ้านหรูยังคงเติบโต สะท้อนถึงศักยภาพกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคระดับบนยังดีต่อเนื่อง

นายอนันต์กร อมรวาที กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ แปลน 101 จำกัด (Master Plan 101) บริษัทรับสร้างบ้านหรูชั้นนำ ที่ล่าสุดได้เปิดตัวอาณาจักรแบบบ้านซูเปอร์ลักชัวรี “The Empire One” มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยกว่า 10,000 ตร.ม. ซึ่งนับว่าเป็นมูลค่าสูงที่สุดในตลาดรับสร้างบ้านลักชัวรีขณะนี้ ได้เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านในปัจจุบันไม่ได้มีการเก็บสถิติในเซ็กเมนต์นี้ แต่เมื่อคำนวณจากยอดขายของมาสเตอร์แปลนกับตลาดรับสร้างบ้านในทุกเซ็กเม้นท์ที่มีมูลค่าประมาณ 5 แสนล้าน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบ้านในระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไปราว 30% ต่อปี

ทั้งนี้สะท้อนจากยอดขายของมาสเตอร์แปลนที่สร้างยอดขายในปี 2565 ไว้ 700 ล้านบาท ปี 2566 สร้างยอดขาย 1,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับข้อมูลของธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งหมด ปัจจุบัน มาสเตอร์แปลน มียอดขายเพียง 1,000 ล้านบาท จึงยังมองเห็นช่องว่างในตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้ ขณะเดียวกันกำลังซื้อของผู้บริโภคก็ยังมีอยู่อย่างแข็งแกร่ง

ด้านนายโกศล โควิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านแบบ one stop service ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่ระดับราคา 2-100 ล้านบาท ได้กล่าวถึง ภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านที่เป็นส่วนหนึ่งของภาคอสังหาริมทรัพย์ ว่า ใน 1-2 ปีที่ผ่านมา ภาพอสังหาริมทรัพย์ภาพใหญ่ค่อนข้างจะมีปัญหาในหลายส่วน ทั้งเรื่องของกําลังซื้อ ซัพพลายที่ล้น รอการระบาย

แต่ในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้านที่เป็นส่วนหนึ่งของอสังหาริมทรัพย์ เรียกได้ว่ายังทรงตัวอยู่ หรืออาจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อย ในส่วนของกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างยังมีกำลังซื้อ สะท้อนจากปัญหาใหญ่ของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันคือการถูกปฏิเสธสินเชื่อ ซึ่งจากข้อมูลกลุ่มลูกค้าของรอแยลเฮ้าส์มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ยื่นขอสินเชื่อ

แสดงให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของธุรกิจรับสร้างบ้านส่วนใหญ่นั้นมีสภาพคล่องทางด้านการเงินที่พร้อม และประมาณ 90% ของกลุ่มลูกค้ามีโฉนดที่ดินเป็นของตนเอง สามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับแบงก์ ทำให้การขอสินเชื่อมีความน่าเชื่อถือ จึงมีโอกาสถูกปฏิเสธให้สินเชื่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งยิ่งราคาบ้านแพงขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาเรื่องสินเชื่อแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้น

สำหรับทิศทางการเติบโตของตลาดบ้านหรูก็ยังคงเป็นเทรนด์มาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่ของประเทศที่เป็นกลุ่มตลาดแมสเริ่มมีปัญหา ทำให้ในภาพรวมได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งที่ในความเป็นจริงยิ่งที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับราคาสูง ปัญหายิ่งน้อยลงไปด้วย ซึ่งมองว่าบ้านลักชัวรีก็จะยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง และยังไม่เห็นจุดที่จะทำให้ตลาดระดับนี้ชะลอตัวลง

นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านลักชัวรี ทั้งสไตล์โมเดิร์น แบรนด์อะคาร่า (ACARA) ที่มีราคาตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป และสไตล์คลาสสิก แบรนด์เอ็มเพอร์เร่อร์ (EMPEROR) ที่มีราคาตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป เปิดเผยว่า ภาพรวมแบรนด์เมื่อ 1-2 ปีก่อน แบรนด์อะคาร่าค่อนข้างเป็นที่นิยม โดยมีสัดส่วนรายได้จากแบรนด์นี้ประมาณ 60-70%

แต่ปัจจุบันนี้ แบรนด์เอ็มเพอร์เร่อร์ที่มีความหรูหราและใช้พื้นที่มากกว่ากลับมานิยมมากขึ้น โดยมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 70% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยมีแนวโน้มที่การเติบโตของกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านหรูจะเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มมูลค่าขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ ยังมองว่าในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านหรูไม่ได้เติบโตด้วยจำนวนหน่วย มีจำนวนที่สร้างได้น้อย ซึ่งมีการเติบโตเพียงประมาณ 5-10% ต่อปี เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นกลุ่มเล็ก ในขณะที่ตลาดมีการเติบโตด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้น โดยมีการเติบโตราว 10-20% ต่อปี

ด้านลูกค้าเองก็มีความต้องการต่างๆ สูงขึ้นประกอบกับวัสดุหรืองานตกแต่งที่หรูหรามากยิ่งขึ้นขึ้น อีกทั้งลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังคงซ่อนตัวอยู่ในตลาดอีกมาก เนื่องจากยังมีลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงอีกจำนวนมากที่ยังไม่รู้จักธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างกว้างขวาง และเมื่อได้รู้จักกับบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ ก็พร้อมที่จะลงทุนเพื่อบ้านที่ตรงใจมากขึ้นกว่าเดิม

ตลาดรับสร้างบ้านหรูโตแกร่ง! มูลค่าพุ่งสวนทางเศรษฐกิจ

มากไปกว่านั้น กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ของธุรกิจรับสร้างบ้านหรูยังกระจายตัวอยู่ในต่างจังหวัด เนื่องจากพื้นที่ในเมืองหลวงที่มีอย่างจำกัด และในบางรายยังขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ 

นายอนันต์กร กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 60% เทียบกับ 40% ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จากเดิมที่เน้นให้บริการลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 70% ต่อ 30% กับลูกค้าในต่างจังหวัด

ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าในต่างจังหวัด อย่างเช่น อุบลราชธานี นครราชสีมา อุดรธานี ระยอง จันทบุรี เป็นต้น ส่งผลให้ในปีนี้คาดการณ์รายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,200 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 20% จากปี 2566

ขณะที่นายสุรัตน์ชัย ได้เปิดเผยว่า สัดส่วนของการให้บริการระหว่างต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ปริมณฑลอยู่ที่ 50% ต่อ 50% และกำลังมีแผนขยายไปยังต่างประเทศอย่างลาวและเมียนมา และมองว่ายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ยังมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต ทั้งจากการขยายฐานลูกค้าในประเทศและการเตรียมขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ยังคงต้องจับตาดูว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมจะส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านหรูในระยะยาวหรือไม่ และธุรกิจจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งนี้ไว้ได้นานเพียงใด