นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยความคืบหน้าการนำเสนอข้อเสนอแนะเพื่อแก้ปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวของ 7 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์ รวม 8 มาตรการ เพื่อฟื้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ กระตุ้นธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา
ทั้ง 7 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน, คณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอาคารชุดไทย ,สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย, สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย
ร่วมกันนำเสนอมาตรการฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้นก็ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลทางเศรษฐกิจรวมไปถึงผลกระทบของมาตรฐการทั้ง 8 ข้อ คาดว่าจะสามารถส่งผลสรุปให้ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณา ได้ภายในวันที่ 22 มกราคมนี้
โดยสมาคมฯ ได้นำเสนอให้ #สร้างบ้านลดหย่อนภาษีได้ ด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเองนั้น ในรายละเอียดจะยึดเอามูลค่าการก่อสร้างบ้านตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างที่ติดอากรแสตมป์ (อ.ส.5) กับกรมสรรพากร
เพื่อนำไปเป็นหลักฐานการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในรอบภาษีปีถัดไปได้ในอัตราลดหย่อนล้านละ 10,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และหากได้รับการพิจารณาและประกาศใช้อย่างเป็นทางการ นับว่าเป็นครั้งแรกของธุรกิจรับสร้างบ้านที่นำมาตรการด้านลดหย่อนภาษีให้กับคนที่ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินตัวเอง
มาตรการลดหย่อนภาษีสร้างบ้าน สมาคมฯ มั่นใจว่าเป็นการทำเพื่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง และอยากให้ผู้บริโภค #สร้างบ้านลดหย่อนภาษีได้ เพราะปกติโดยทั่วไปคนสร้างบ้านทั้งชีวิตก็หลังเดียวเท่านั้น หากสามารถขอลดหย่อนภาษีได้จะช่วยลดภาระคนที่จะสร้างบ้าน
หากมาตรการนี้สำเร็จและเป็นมาตรการถาวรในอนาคต สมาคมฯ คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวยังเป็นการจูงใจให้ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ที่ยังไม่ได้จดเป็นทะเบียน ให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
“เชื่อมั่นว่ามาตรการ #สร้างบ้านลดหย่อนภาษีได้ จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศโดยรวมเติบโตตามไปด้วย” นายโอฬารกล่าว