นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวกับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ‘ว่า กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีนั้น จะไม่ส่งผลโดยรวมต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์มากนัก เพราะได้มีการวางนโยบายต่าง ๆ ในการกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลังมาแล้วค่อนข้างมาก เช่น โครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์) วงเงิน 50,000 ล้านบาท และ Happy Home โดย ธอส.
ขณะเดียวกันการแก้ไขกฎหมายอ้างอิงสิทธิได้ถึง 99 ปี และเปิดให้ชาวต่างชาติถทอครองกรรมสิทธิห้องชุดได้ในสัดส่วน 75% นั้น ก็ผ่านการเห็นชอบขอฝ ครม. แล้ว อยู่ในขั้นตอนของรัฐสภา ที่กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ เชื่อว่า ในเรื่องนี้ก็จะสามารถเดินต่อได้เช่นกัน
“การดำเนินนโยบายต่าง ๆ หากผู้ที่จัดตั้งรัฐบาลยังเป็นชุดเดิม ก็น่าจะยังคงต่อเนื่องได้ แต่อาจจะล่าช้าบ้าง เพราะต้องจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าไม่น่าจะแย่ไปกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่ การฟื้นตัวต่าง ๆ จะยังคงเป็นไปตามคาดการณ์จากหลายฝ่าย
เปลี่ยนรัฐบาลกี่ชุด แต่ถ้าเป็นชุดเดิม สานต่อจากเดิมได้ ก็น่สจะไปต่อได้ ก็นาสจะทำให้ไม่ฉุดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้มากยัก แต่ขออย่างเดียว ให้ไปจต่อจากเดิม“
สำหรับกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีแรก ถือเป็นการตกต่ำที่สุดของธุรกิจอสังหาฯในรอบหลายปี กำลังซื้อบ้านแนวราบหายไปราว 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดปัจจัยการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของภาครัฐ จะช่วยเพิ่ม New Demand เข้าสู่ตลาดจนสามานถประคับประคองให้กำชังซื้ออสังหาฯปีนี้ ไม่ชะลอตัว แต่คาดว่าน่าจะอยู่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะมีการประชุมเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงต่อจากนี้ และที่สำคัญคือ อาจจะพิจารณา ผ่อนปรนอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ให้เกินเพดานที่ทำหนด อาจจะเริ่มภายใน ก.ย. 67 และสิ้นสุด ธ.ค. 68