พีดีเฮ้าส์ ปักธงใต้-ตะวันตก เผยรับสร้างบ้าน Q3 เติบโตสวนเศรษฐกิจทรุด
พีดีเฮ้าส์ เผยตลาดรับสร้างบ้านในภาคใต้และตะวันตกเติบโต สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซาไตรมาส 3 พร้อมเปิดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจมั่นคงยาวนาน 17 ปี แนะผู้ประกอบการท้องถิ่นเร่งพัฒนามาตรฐาน
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป (ประจวบคีรีขันธ์) จำกัด และบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ขยายตลาดรับสร้างบ้านพื้นที่จังหวัดภาคใต้และตะวันตก
โดยมีสาขาเปิดให้บริการรับสร้างบ้านอยู่ในพื้นที่รวม 8 สาขา ประกอบด้วย สาขากาญจนาภิเษก นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี ปราณบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ครอบคลุมพื้นที่กว่า 14 จังหวัด ภายใต้แนวคิดสร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์มีการขยายสาขาในพื้นที่ภาคใต้และตะวันตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเริ่มต้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ปราณบุรี) และเป็นระยะเวลาราว 17 ปี ที่มีการขยายสาขาครอบคลุมไปหลายจังหวัด ทำให้บริษัทมีประสบการณ์และการบริการในพื้นที่
ทั้งน้ียังไม่พบผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน Top 5 รายใดเข้ามาแย่งแข่งขันในตลาดรับสร้างบ้านบนพื้นที่นี้ขณะนี้
นายพิศาล ยังกล่าวถึงสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในภาคใต้และตะวันตกในไตรมาส 3 ว่า ปัจจุบันความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคในพื้นที่เหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ยอดขายและปริมาณการสร้างบ้านของบริษัทเติบโตเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก
โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยู่ในนครปฐม ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช ต่างมียอดขายบ้านเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
รวมถึงพบว่า แนวโน้มและทิศทางการแข่งขันของบรรดาผู้ประกอบการรับสร้างบ้านท้องถิ่นในตลาดรับสร้างบ้านภาคใต้และตะวันตกยังคงมุ่งแข่งขันกันด้วยราคา มากกว่าจะมุ่งเน้นพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการให้มีคุณภาพสูงขึ้น
ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานและเป็นมืออาชีพ จึงทำให้ผู้บริโภคเองมองว่าไม่มีความแตกต่างกับผู้รับเหมาสร้างบ้านรายย่อยทั่วไป
สำคัญที่สุดผู้บริโภคเองมีความกังวลสูงกับปัญหาสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน สร้างบ้านไม่ได้บ้านหรือถูกทิ้งงาน ด้วยเพราะไม่สามารถแยกได้ว่าบริษัทหรือศูนย์รับสร้างบ้านรายใดน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพตัวจริง
ที่กล่าวมาสะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในพื้นที่ภาคใต้ ยังต้องมีการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานให้ก้าวทันภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องการให้ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค รวมถึงความซื่อสัตย์ของตัวผู้ประกอบการเอง
นายพิศาล ยังกล่าวเสริมว่า ช่วงต้นปี 2567 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจประเทศและกำลังซื้อผู้บริโภคในปีนี้น่าจะชะลอตัว จึงไม่ได้วางแผนขยายตลาดหรือตั้งเป้ามียอดขายเติบโต
หากแต่จะหันมาเน้นทบทวนและฝึกอบรมบุคลากร (Retranning) เกี่ยวกับมาตรฐานคุณภาพและบริการ เพื่อจะเพิ่มขีดความสามารถบุคลากรและเตรียมพร้อมเมื่อกำลังฟื้นตัว หรือพร้อมขยายสาขาใหม่ ๆ ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดรับสร้างบ้านยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก หากแต่ผู้ประกอบการควรจะต้องช่วยกันยกระดับมาตรฐานคุณภาพและบริการที่จับต้องได้หรือมีความเป็นมืออาชีพที่ชัดเจนในสายตาของผู้บริโภคมากขึ้น