ตลาดที่อยู่อาศัยเหนือปี 67 เชียงใหม่ฟื้นตัว จังหวัดอื่นยังเผชิญความท้าทาย

17 ก.ย. 2567 | 23:15 น.

REIC เผยตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือในปี 2567 มีแนวโน้มทรงตัว เชียงใหม่มีการเติบโตที่ชัดเจน ดึงภาพรวมตลาดดีขึ้น แต่จังหวัดอื่นยังเผชิญความท้าทาย จากโครงการใหม่ชะลอตัว-การดูดซับที่ต่ำ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคเหนือของประเทศไทยสำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 2567

ซึ่งครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก นครสวรรค์ และลำพูน โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคเหนือใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก นครสวรรค์ และลำพูน พบว่ามีจำนวนหน่วยที่ยังคงขายได้ลดลง 0.6% แต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.4%

ขณะที่จำนวนหน่วยที่ขายได้ใหม่เพิ่มขึ้น 12.5% ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายในพื้นที่ลดลง 2.1% เป็นผลดีจากการฟื้นตัวของตลาดในจังหวัดเชียงใหม่

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์

ซึ่งเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางของตลาดที่อยู่อาศัยในภาคเหนือ มีการฟื้นตัวที่เด่นชัด โดยในครึ่งแรกปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 10,507 หน่วย เพิ่มขึ้น 5.9% มูลค่ารวม 45,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% สัดส่วนของโครงการบ้านจัดสรรและโครงการอาคารชุดมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด

โดยโครงการบ้านจัดสรรมีจำนวนหน่วย 8,588 หน่วย ลดลง 0.1% แต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4.0% ขณะที่โครงการอาคารชุดมีจำนวนหน่วย 1,919 หน่วย เพิ่มขึ้น 45.6% มูลค่าเพิ่มขึ้น 51.3%

ในด้านของการขายใหม่ จังหวัดเชียงใหม่มียอดขายที่อยู่อาศัยใหม่จำนวน 1,191 หน่วย เพิ่มขึ้น 47.4% มูลค่ารวม 5,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.5% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของโครงการบ้านจัดสรรและโครงการอาคารชุดอย่างเท่าๆ กัน

ด้านจังหวัดอื่นๆ เชียงราย มีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 2,758 หน่วย ลดลง 11.9% มูลค่าลดลง 13.0% ซึ่งมีผลมาจากการลดลงของโครงการเปิดขายใหม่และการขายได้ใหม่ที่ลดลงอย่างมาก

โดยเฉพาะในประเภทโครงการบ้านจัดสรร โดยในครึ่งแรกปี 2567 จังหวัดเชียงรายมีการขายได้ใหม่เพียง 412 หน่วย ลดลง 15.5% มูลค่าลดลง 18.0%

พิษณุโลก มีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 2,362 หน่วย ลดลง 10.1% มูลค่าลดลง 9.6% ในครึ่งแรกปี 2567 โดยยอดขายได้ใหม่ลดลง 12.3% มูลค่าลดลง 11.8% ซึ่งสะท้อนถึงความชะลอตัวในตลาดและปัญหาในการขายที่อยู่อาศัยใหม่

นครสวรรค์ พบว่ามีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 1,438 หน่วย ลดลง 8.2% มูลค่าลดลง 7.5% การขายได้ใหม่ลดลง 10.8% ขณะที่มูลค่าลดลง 9.2% เป็นผลมาจากการชะลอตัวของตลาด โดยเฉพาะในส่วนของบ้านจัดสรร

เนื่องจากการเข้ามาของโครงการใหม่ในตลาดมีจำนวนที่น้อยลง ขณะที่อัตราดูดซับตกลงมาก ปัญหาหลักคือการขาดความต้องการน้อยที่ส่งผลให้หน่วยเหลือขายสูงขึ้น

และลำพูน มีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 1,036 หน่วย ลดลง 6.0% มูลค่าลดลง 6.8% โดยการขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ลดลง 9.5% มูลค่าลดลง 8.2% เนื่องจากไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2567 และยอดขายใหม่เพิ่มขึ้นทำให้หน่วยเหลือขายมีแนวโน้มลดลง

โดยอัตราดูดซับยังคงทรงตัวอยู่ที่ 3.7% ขณะที่ปีก่อนหน้าอัตราดูดซับอยู่ที่ 3.0% โดยภาพรวมหน่วยเสนอขายลดลงแต่ยังคงมีความต้องการในพื้นที่

ตามการคาดการณ์ของ REIC สำหรับปี 2567 ดร.วิชัย ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือจะมีที่อยู่อาศัยใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 3,148 หน่วย โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,638 หน่วย และโครงการอาคารชุด 510 หน่วย

ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีการขายได้ใหม่จำนวน 3,522 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 3,059 หน่วย และโครงการอาคารชุด 463 หน่วย นอกจากนี้ยังชี้ว่าอัตราดูดซับต่อเดือนทุกประเภทจะยังคงทรงตัวที่ระดับ 1.6% เช่นเดียวกับปี 2566

ซึ่งส่งผลให้มีที่อยู่อาศัยรอการขายค้างจำนวนรวม 15,067 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 13,476 หน่วย และโครงการอาคารชุด 1,590 หน่วย ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566

การคาดการณ์นี้แสดงถึงภาพรวมที่ดีขึ้นจะมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 27.3% หรือประมาณ 2,179 หน่วย

ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 1,721 หน่วย และโครงการอาคารชุด 458 หน่วย อัตราดูดซับในจังหวัดเชียงใหม่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.6% โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราดูดซับจะเป็นผลมาจากกลุ่มอาคารชุดที่เติบโตมากขึ้น