มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่ของรัฐบาลแพทองธาร ซึ่งนอกจาก มาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ1,000บาท และโครงการแจกเงิน10,000บาท เฟส2 สำหรับผู้สูงอายุแล้ว ยังมีโครงการอีกมากที่จะออกมาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในภาพรวม ช่วงโค้งสุดท้ายของปีและเป็นของขวัญปีใหม่ปี2568
ยังมี โครงการรถไฟฟ้า20 บาทตลอดสาย ทุกสี ทุก สาย ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คิกออฟ ภายในเดือนกันยายน2568 หลังจาก นำร่องรถไฟฟ้า2 เส้นทางสายสีม่วงและสายสีแดง
โดยมีกระแสตอบรับที่ดี หากทุกเส้นทางทำได้มองว่าจะช่วยลดค่าครองชีพประชาชนอย่างมากรวมถึงกระตุ้นให้คนทิ้งรถยนต์และหันมาเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากขึ้น และหากทำได้ จะช่วยดึงคนซื้อที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น
รวมถึงมาตรการกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกทั้งการปรับปรุงหลักเกณฑ์ส่งเสิรมการลงทุนโดยจะเริ่มดำเนินการในปี2568
อีกประเด็นที่น่าจับตา ได้แก่ มาตรการ กระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะออกมาในช่วงเดือนมกราคมปี2568 ซึ่งเป็นมาตรการภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเช่นการก่อสร้าง การผลิตวัสดุก่อสร้าง การผลิตเฟอร์นิเจอร์ ทั้งนี้มาตรการระยะสั้น
ได้แก่ มาตรการการให้สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโรงแรมเพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจโรงแรม กระตุ้นการลงทุนการจ้างงานเพิ่มขึ้นโดยเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนสินเชื่อเพื่อซื้อสร้าง ซ่อม แซม ที่อยู่อาศัย
หรือซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกเสริมสภาพคล่องให้ประชาชนนำไปซื้อ สร้าง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองรวมทั้งกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานจะเริ่มดำเนินการภายในปี2568
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการต่อายุลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และนิติกรรม และจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี2567 ออกไปอีกในปี2568 ที่คาดว่ากลางเดือนธันวาคมนี้ หรือปลายปี คณะรัฐมนตรี(ครม.) น่าจะมีมติเห็นชอบออกมา
ส่วนมาตรการระยะยาวได้แก่มาตรการส่งเสริมการลงทุนสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยด้วยการปล่อยเช่าที่ดินภาครัฐ ระยะยาว โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า ส่งเสริมผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยในราคาเหมาะสมโดยใช้กลไกการให้เช่าที่ดินรัฐเพื่อช่วยให้ราคาที่อยู่อาศัยลดลงซึ่งกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มดำเนินการภายในปี2568
หลังจากรัฐบาลนายเศรษฐา มีมติเห็นชอบ ศึกษาแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้อง ขยายอายุการเช่าที่ดินจาก30ปี ออกไปเป็น 99ปี รวมถึงการขยายการถือครองห้องชุดของคนต่างชาติจาก ไม่เกิน49% เป็น ไม่เกิน 75% และยังแก้ไขข้อกำหนดจัดสรรที่ดิน โดยลดขนาดแปลงที่ดินลง
ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวจาก 50ตารางวาเหลือ 35ตารางวา บ้านแฝด จาก35ตารางวาเหลือ24ตารางวา ทาวน์เฮ้าส์ จาก18ตารางวาเหลือ 14 ตารางวาเพื่อช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการจากราคาที่ดินแพงผู้บริโภคต้องซื้อบ้านรัศมีไกลขึ้น หากต้องการบ้านตามราคาตามกำลังที่สามารถซื้อได้
ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ทยอยออกมา ไม่ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม มาตรการรัฐที่ออกมาไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน มองว่า ตราบใดถ้าสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ตลาดที่อยู่อาศัยก็จะได้รับผลกระทบ และส่งผลถึงปีหน้า อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาตั้งแต่ชุดแรกทั้งหมดไม่ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด
ส่วนสถานการณ์ตลาดปี2568 คาดว่ากำลังซื้อจะชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยังต้องการ ผ่อนปรน LTV (Loan to Value) ปล่อยสินเชื่อสำหรับบ้านหลังที่2 ขึ้นไป 100% เหมือนบ้านหลังแรก รวมถึงธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ หากเป็นไปได้เชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาดีขึ้นแต่มองว่า คงไม่ง่ายนัก