นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่สอบถามข้อมูลจากร้านค้า ผู้ประกอบการต่าง ๆ บนเกาะ และประชุมหารือร่วมกับมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) มูลนิธิโคคา-โคล่า ร้านรับซื้อของเก่า นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าบนเกาะเต่าและนายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า เพื่อร่วมจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะเต่าอย่างยั่งยืนทั้งระบบ
เกาะเต่ามีปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในช่วงท่องเที่ยวมากถึง 15 - 20 ตันต่อวัน ในขณะที่มีสถานที่กำจัดขยะเพียง 4 ไร่ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณขยะในอนาคต
การขับเคลื่อนการจัดการขยะอย่างยั่งยืนทั้งระบบ ต้องดำเนินการตั้งแต่ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่นำขึ้นเกาะที่จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์ที่จัดการง่าย สามารถเรียกคืนกลับเข้าสู่ระบบเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ ไม่ถูกทิ้งตกค้างอยู่บนเกาะ การสนับสนุนให้เกิดการเก็บและคัดแยก รวมถึงการขนส่งออกจากเกาะโดยใช้หลักการการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต การวางแผนจัดระบบการคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่แหล่งกำเนิด การเก็บขนขยะแบบแยกประเภท
รวมไปถึงการกำจัดขยะเก่าที่ตกค้างบนเกาะ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอย ลดปริมาณขยะ ที่กำจัดได้ยาก ลดปริมาณขยะมูลฝอยที่จะนำไปกำจัด เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะที่มีพื้นที่จำกัด
การขอความร่วมมือจากผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ร้านสะดวกซื้อและผู้จำหน่ายสินค้าในพื้นที่เกาะเต่า ให้จำหน่ายหรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นกระบวนการทำงานที่ช่วยให้เกิดการนำกลับบรรจุภัณฑ์มารีไซเคิล ลดปริมาณขยะที่จะต้องนำไปกำจัด หรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่สลายตัวได้ทางชีวภาพหรือ Compostable Plastic เพื่อลดปริมาณไมโครพลาสติกลงสู่ทะเล ให้เกาะเต่าเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่สามารถรักษาสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตของประชาชน และระบบนิเวศเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน