ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เร่งตรวจสอบและเรียกเก็บค่าพาดสายสื่อสารของหน่วยงานเอกชนและรัฐวิสาหกิจบนเสาไฟฟ้าของ PEA ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายประสิทธิ์ จันทร์ประสิทธิ์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (PEA) เปิดเผยว่า ปัญหาเกี่ยวกับการพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ PEA โดยไม่ได้รับอนุญาต PEA ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบกิจการฯ โดยตลอด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างรอบคอบและรัดกุม
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีความต้องการใช้งานด้านการสื่อสารการขยายตัวเป็นอย่างมาก ประกอบกับผู้ประกอบกิจการฯ ดำเนินการโดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่เสาไฟฟ้า ไม่สามารถรองรับสายสื่อสารปริมาณมาก และ PEA ไม่สามารถอนุญาตให้พาดสายเพิ่มเติมได้ เป็นเหตุให้ผู้ประกอบกิจการฯ พาดสายโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับแนวทางในการดำเนินการกับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่พาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หาก PEA ตรวจพบจะเรียกเก็บค่าสินไหมทดแทนจากผู้ประกอบกิจการฯ ดังกล่าว รวมถึงแจ้งให้ดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี กรณีที่ PEA ไม่สามารถอนุญาตให้พาดสายได้ ผู้ประกอบการฯ ต้องรื้อถอนสายสื่อสารออก หากผู้ประกอบกิจการฯ ที่กระทำการพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ไม่ดำเนินการรื้อถอนหรือขออนุญาตให้ถูกต้อง หรือชำระค่าสินไหมทดแทนให้ครบถ้วน PEA จะรวบรวมเอกสาร หลักฐาน เพื่อดำเนินกระบวนการตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและรื้อถอนสายสื่อสารดังกล่าวออกต่อไป
ปัจจุบัน PEA รอการชำระเงินตามคำพิพากษาเป็นเงิน 64 ล้านบาท และอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย เป็นเงิน 13,552 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปสู่การฟ้องคดีซึ่งดำเนินการบนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และยึดหลักกฎหมาย เพื่อความถูกต้อง