นสพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานฟาร์มและข้อกำหนดลูกค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านอาหาร และคำนึงถึงสวัสดิภาพของสัตว์ก่อนนำมาเป็นวัตถุดิบอาหาร รวมทั้งหลักสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) คือ “สุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม”
ทั้งนี้ซีพีเอฟ ผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ยึดมั่นในหลักสวัสดิภาพสัตว์ โดยนำหลักอิสรภาพสัตว์ 5 ประการมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกยอมรับ มาเป็นหลักปฏิบัติในการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม ทั้งไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ด สุกร และสัตว์น้ำ อย่างเคร่งครัด โดยดูแลสัตว์ไม่ให้เกิดความรู้สึกกลัวและอยู่ในภาวะเครียด ทั้งให้สัตว์อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เติบโตอย่างเหมาะสม ได้รับอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติอย่างอิสระ ควบคู่การเลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนระบบปิดที่มีการบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมยกระดับการป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรฐานสากล ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพที่ดีของสัตว์ ทำให้ได้เนื้อสัตว์ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค
สำหรับ ฟาร์มไก่เนื้อของซีพีเอฟ ได้ริเริ่มใช้หลักสวัสดิภาพสัตว์ในการเลี้ยงไก่เนื้อมานานกว่า 33 ปี นับตั้งแต่ปี 2532 โดยการเลี้ยงไก่เนื้อแบบปล่อยอิสระไม่ขังกรง (Cage free) และนำเทคโนโลยีโรงเรือนระบบปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ หรือ โรงเรือนระบบอีแวป และอุปกรณ์อัตโนมัติมาใช้เป็นรายแรกสำหรับธุรกิจไก่ครบวงจร ในภูมิภาคอาเซียน ช่วยให้ไก่มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย พร้อมทั้งเดินหน้าใช้เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์ม มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์มไก่เนื้อ ด้วยการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ระบบอัตโนมัติในการประมวลผลข้อมูลในฟาร์ม ช่วยควบคุมการจัดการฟาร์ม เพื่อให้ไก่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมตลอดการเลี้ยง
นอกจากนี้ ยังนำนวัตกรรมวัตกรรมโปรไบโอติกมาใช้ในอาหารสัตว์ ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ไก่ เป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงตามธรรมชาติ มีสุขภาพดี รวมถึงไม่มีการใช้ฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตตลอดการเลี้ยง ซึ่งซีพีเอฟยังเป็นภาคเอกชนไทยรายแรกนอกเขตสหภาพยุโรปที่ได้รับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ ACP (Assured Chicken Production) ของประเทศอังกฤษ ทำให้ไก่ไทย ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งในสหภาพยุโรป อังกฤษ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ล่าสุด สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และซาอุดีอาระเบีย ได้เปิดตลาดรับไก่เนื้อจากไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของ ธุรกิจสุกร มีการเลี้ยงสุกรตามหลัก 3’Ts (No Testicles, No Teeth Clipping and No Tail Docking) ทั้งกิจการในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยกิจการในไต้หวัน ได้ยกเลิกการตัด/กรอฟันลูกสุกรแล้ว 100% ตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่กิจการในไทยได้ยกเลิกการตัดใบหูลูกสุกรไปแล้วกว่า 69% ของลูกสุกรทั้งหมด
ขณะที่ในธุรกิจสัตว์น้ำ ในการเลี้ยงแม่พันธุ์กุ้ง ซีพีเอฟได้ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพทดแทนในธุรกิจเพาะฟักและอนุบาลลูกกุ้ง ทำให้แม่พันธุ์กุ้งสามารถสร้างและวางไข่ได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องตัดก้านตา เป็นต้น