"ทุเรียนภูเขาไฟ" ศรีสะเกษ หนึ่งในทุเรียนชื่อดัง ที่ใครได้ลิ้มชิมรสแล้วจะติดอกติดใจไม่รู้ลืม โดยผลผลิตส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม แตกต่างจากทุเรียนทางภาคตะวันออกและภาคใต้ จึงส่งผลให้ตลาดมีความต้องการ ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษสูง และทำให้มีราคาจำหน่ายสูงตามไปด้วย
ปัจจุบัน “ทุเรียนภูเขาไฟ" ศรีสะเกษ ได้รับประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นผลจากการพัฒนาและส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียนคุณภาพที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
จุดเด่น “ทุเรียนภูเขาไฟ" ศรีสะเกษ
“ทุเรียนภูเขาไฟ" ศรีสะเกษ ได้รับการยอมรับว่ามีรสชาติที่เป็นเลิศด้านรสชาติ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติที่ดีของเกษตรกรตามหลักวิชาการ โดยมีจุดเด่นที่ชัดเจน เช่น
กรมวิชาการเกษตร พัฒนาพันธุ์
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดี กรมวิชาการเกษตร ยอมรับว่า ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูปสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน ภายใต้กิจกรรม การพัฒนาระบบการผลิตทุเรียนคุณภาพและขยายผลทุเรียนพันธุ์ศรีสะเกษ ประกอบด้วย
1.การถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตทุเรียนคุณภาพของกรมวิชาการเกษตร ผ่านการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 8 ปี (2555-2562) จำนวน 25 หลักสูตร เกษตรกรจำนวน 2,185 ราย
2.การพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนยุคใหม่ มีการปรับเปลี่ยนการผลิตและการตลาดเป็นแบบรวมกลุ่ม เพื่อผลิตทุเรียนคุณภาพและเพิ่มอำนาจต่อรองด้านการตลาด
3.การสร้างแปลงต้นแบบการผลิตทุเรียนในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอศรีรัตนะ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้การผลิตทุเรียนของเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง
4.สร้างอัตลักษณ์ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษให้มีความโดนเด่นแตกต่างจากที่อื่น
สำหรับการพัฒนาและส่งเสริม "ทุเรียนภูเขาไฟ" ศรีสะเกษ แบ่งเป็นปีต่าง ๆ ดังนี้
ปี 2564
ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ได้รวบรวมและคัดเลือกทุเรียนจากการเพาะเมล็ดได้ 17 สายพันธุ์ และขอขึ้นทะเบียนพันธุ์ จำนวน 1 พันธุ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ชื่อพันธุ์ “ทุเรียนศรีสะเกษ 238” ซึ่งมีสีเนื้อและรสชาติดีเด่นเป็นเอกลักษณ์ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 150-180 บาท/กก. สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่าไร่ละ 500,000 บาท
ทั้งนี้ได้ขยายพันธุ์ทุเรียนพันธุ์ “ศรีสะเกษ 238” แจกจ่ายแก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน เพื่อเป็นการพัฒนาการผลิตทุเรียนจังหวัดศรีสะเกษ ให้มีความโดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ มีความแตกต่างจากแหล่งปลูกอื่นๆ คาดใน 3 ปี เกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษหันมาปลูกทุเรียนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 12,000 – 15,000 ไร่
อีกทั้งสนับสนุนให้มีการขยายพันธุ์ และเพิ่มพื้นที่ปลูกทุเรียนพันธุ์ใหม่ให้มากขึ้น รวมทั้งการจัดการสวนทุเรียนยุคใหม่ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน สร้างตลาดผู้บริโภครายใหม่ ลดปัญหาทุเรียนล้นตลาดในอนาคต
ปี 2565
ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ได้ดำเนินการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แปรรูป ผลิตผลและสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้วยการแก้ไขปัญหาการผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน โดยการติดตามให้คำแนะนำการจัดการสวนทุเรียนเพื่อผลิตทุเรียนคุณภาพ
เช่นเดียวกับการสร้างแปลงแม่พันธุ์ทุเรียน “ศรีสะเกษ 238” และขยายพันธุ์ทุเรียนพันธุ์ใหม่แจกจ่ายแก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ทุเรียนพันธุ์ใหม่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น และการฝึกอบรม “เทคนิคการขยายพันธุ์ทุเรียนมืออาชีพ” ให้แก่เกษตรกร
ปี 2566
ได้ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีการขยายพันธุ์และจัดการเรือนเพาะชำ การสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้จากการขยายพันธุ์และจำหน่ายพันธุ์ทุเรียน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรรายใหม่ที่จะปลูกทุเรียน แต่ยังขาดองค์ความรู้และทักษะในการขยายพันธุ์และการจัดการเรือนเพาะชำ เพื่อสร้างผู้ประกอบการในการผลิตและจำหน่ายต้นพันธุ์ทุเรียน
อีกทั้งการเตรียมขึ้นทะเบียนพันธุ์ทุเรียนพันธุ์ใหม่ จำนวน 1 พันธุ์ และสร้างแปลงแม่พันธุ์เพื่อขยายพันธุ์และเผยแพร่ทุเรียนพันธุ์ใหม่ให้เกษตรกรด้วย