นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.จะเร่งดำเนินการศึกษาแนวทางการสกัดน้ำทะเลเป็นน้ำจืด แต่ด้วยต้นทุนที่ยังสูง จึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยน้ำจืดที่ได้ต้องมีประสิทธิภาพสามารถดื่มกินได้
ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นที่ได้ระหว่างกลั่น อาทิ เกลือ ก็ต้องมีแผนใช้ประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการลงทุนทั้งระบบ อีกทั้ง กนอ.จะเดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม
ทั้งนี้ กนอ. จะเร่งดำเนินการประสานกับหน่วยงานด้านระบบชลประทานใกล้ชิด เพื่อให้การบริหารน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกระยะยาว โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมมีความมั่นคง ไม่ต้องกังวลสถานการณ์รายปี
ส่วนสถานการณ์น้ำอุตสาหกรรมภาคตะวันออก หลังคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) แสดงความกังวลจะขาดแคลนว่า ปีนี้ไทยเจอปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้เกิดความกังวลต่อภัยแล้งนั้น เบื้องต้น กนอ.ตรวจสอบข้อมูลพบว่าปีนี้ปริมานฝนตกรวมน้อยลงจากปีก่อน 39%
และล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาประเมินฝนในช่วง 2-3 เดือนจะน้อยกว่าช่วงที่ผ่านมา 5-10% อย่างไรก็ตามระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำหลักของกรมชลประทานยังอยู่ระดับ 60-70%
ขณะที่กนอ.มีอ่างเก็บน้ำสำรองสำหรับภาคอุตสาหกรรมเช่นกัน จึงมั่นใจว่าปีนี้ปริมาณน้ำจะไม่ขาดแคลนแน่นอน
"สิ่งที่น่ากังวลคือ ปี 2567 ถ้าแล้งยาวนานอาจทำให้น้ำปีหน้ามีปัญหาในส่วนของอ่างเก็บน้ำที่ใช้อยู่ระยองและแหลมฉบัง"