วันนี้ (15 มีนาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือกับ นายซูซูกิ โยชิฮิสะ และนายซูซูกิ จุน ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น ภายใต้สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) พร้อมคณะ ในโอกาสเยือนไทย เพื่อร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุน พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ แบ่งเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้
ความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด
ทั้งสองฝ่าย หารือถึงความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ซึ่ง ไทยและญี่ปุ่นต่างกำลังเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ล่าสุดประเทศไทยอยู่ระหว่างการจัดทำแผนพลังงานแห่งชาติ และการวางแผนการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด (Zero Emission Vehicles: ZEVs) พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะญี่ปุ่นในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน และการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจพลังงานคาร์บอนต่ำร่วมกัน
นอกจากนี้รัฐบาลยังได้เชิญชวนกลุ่มบริษัทสมาชิกเคดันเรน ขยายการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญด้วย
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ
ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันร่วมมือสานต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยไทยและญี่ปุ่นต่างเผชิญอุปสรรคร่วมกันมา ทั้งเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งต่างส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของญี่ปุ่นในไทยอย่างมาก
ทั้งนี้นายกฯ ขอบคุณญี่ปุ่นที่ยังเชื่อมั่นในการลงทุนในไทย ยังคงใช้ไทยเป็นฐานผลิตสินค้าที่สำคัญในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ด้านประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่นฯ ชื่นชมไทยที่เป็นประเทศที่มีศักยภาพที่จะเป็นฐานการผลิต พร้อมร่วมมือกับไทยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจสำหรับเอกชนญี่ปุ่น
รวมทั้งยินดีใช้ประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มากขึ้น เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
ความร่วมมือด้านการเกษตรและอาหาร
นายกฯ ชื่นชมญี่ปุ่นในเรื่องการบริหารจัดการในภาคอุตสาหกรรมด้านการเกษตร ซึ่งสอดคล้องกับประเทศไทยที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงหวังว่าในอนาคตญี่ปุ่นจะร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมในภาคเกษตรกับไทยในอนาคต
ทั้งนี้ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่นฯ ยินดีพิจารณาความร่วมมือด้านการเกษตร พร้อมกล่าวถึงความร่วมมือด้านอาหาร ซึ่งญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านอาหาร และยังต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบทางด้านอาหารจากไทยด้วยเช่นกัน หวังว่าภาคเอกชนไทยจะไปลงทุนทางด้านอาหารในญี่ปุ่นเพิ่มเติม พร้อมกล่าวชื่นชมอาหารไทยว่าเป็นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น
ประชุมการค้าเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ยังขอให้เคดันเรนประสบความสำเร็จในการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการค้าและเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24 ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (16 มีนาคม 2566) ซึ่งจะเป็นการจัดประชุมครั้งแรกในรอบ 8 ปี
ทั้งนี้หวังว่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจไทยและญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่นฯ กล่าวว่า การประชุมฯ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อทั้งสองประเทศ โดยจะเป็นโอกาสหารือในประเด็นเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และส่งเสริมการสร้างสภาวะแวดล้อมด้านการลงทุน รวมทั้งความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น เมืองอัจฉริยะ การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม